โลกวิจารณ์บริษัทก๊าซฝรั่งเศส ไม่ตัด “ท่อน้ำเลี้ยง” เผด็จการพม่า

วันที่ 4 เมษายน 2564 เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์มิคสัญญีทางการเมืองในประเทศเมียนมา (พม่า) ว่า ผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามกองทัพพม่าแล้วเพิ่มเป็นอย่างน้อย 557 ราย ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 2,658 คน ตั้งแต่กองทัพพม่าก่อเหตุยึดอำนาจเมื่อ 1 ก.พ. ขณะที่ชาวพม่าสร้างสัญลักษณ์การประท้วงแบบใหม่โดยอาศัยเทศกาลอีสเตอร์เป็นเครื่องมือส่งต่อเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือไปยังประชาคมโลก ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพม่า ซึ่งเป็นรายได้หลักช่องทางเดียวที่เหลือของเผด็จการทหาร

บรรดาชาวพม่าต่างพากันนำไข่มาวาดลวดลายทางการเมืองแล้วนำไปวางไว้ตามหน้าทางเข้าบ้าน และแขวนไว้ตามรั้ว ก่อนนำภาพดังกล่าวมาแชร์ผ่านสังคมออนไลน์เพื่อส่งข้อความถึงประชาคมโลก เช่น สัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว และภาพของนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ในฐานะสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย รวมถึงข้อความ “โปรดช่วยพวกเราด้วย” และ “ประชาธิปไตย” ขณะที่บางส่วนพากันออกมาเดินขบวนที่เมืองมัณฑะเลย์ตั้งแต่เช้าตรู่ แม้เพิ่งจะมีเหตุผู้เสียชีวิต 4 ราย จากการถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามด้วยกระสุนจริงที่เมืองพะโค และโมนยวา ก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว

วันเดียวกัน ยังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อบริษัท โททอล ธุรกิจพลังงานยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส หลังปฏิเสธที่ระงับการดำเนินธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติในพม่า ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากประชาคมโลกให้บรรดาเอกชนดำเนินการคว่ำบาตรต่อเผด็จการทหารพม่าที่เข่นฆ่าชาวพม่าอย่างไม่ไยดีต่อเสียงทักท้วงใดๆ

นายเพทริก โปยานนี ซีอีโอของโททอล กล่าวว่า หากทางบริษัทระงับการดำเนินธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติในพม่าจะส่งผลให้ระบบผลิตไฟฟ้าขัดข้องจนกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพม่าหลายล้านคนและการปฏิบัติงานของโรงพยาบาล นายโปยานนี ยืนยันว่า รู้สึกโกรธแค้นต่อการกระทำของเผด็จการทหารพม่า แต่ปฏิเสธที่จะดำเนินการในลักษณะที่สร้างความเดือดร้อนซ้ำเติมความทุกข์แสนสาหัสให้ชาวพม่า

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังบรรดาเอกชนต่างชาติระงับการดำเนินธุรกิจกับพม่าเพื่อประท้วงการเข่นฆ่าชาวพม่า อาทิ แบรนด์แฟชั่น Benetton จากอิตาลี และ H&M จากสวีเดน ระงับการสั่งซื้อจากพม่า

ขณะที่เครือ EDF จากฝรั่งเศส ระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำในพม่า มูลค่าเกือบ 4.7 หมื่นล้านบาท หลังการระบาดของโรคติดเชือ้ไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ผนวกกับการประท้วงส่งผลให้เศรษฐกิจของพม่าพังพินาศ เหลือเพียงเมียนมาร์ ออยล์ และแก๊ส เอนเตอร์ไพรส์ ของกองทัพพม่า ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของโททอลของฝรั่งเศส และเชฟรอน จากสหรัฐอเมริกา เป็นรายได้หลักทางเดียวของเผด็จการทหารพม่า สร้างรายได้กว่า 3 พันล้านบาทต่อปีจากการขายก๊าซธรรมชาติ