ทหารกลายเป็นโจร? กองทัพพม่า คร่าชีวิตเด็กมัธยม-คุณแม่ลูกสาม ปล้นกระทั่งปลาแห้ง

เว็บไซต์ข่าวอิรวดี irrawaddy.com รายงานเหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. เป็นเหตุให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศ เหมือนสงครามกลางเมือง และประชาชนถูกเจ้าหน้าที่รัฐปราบปราม ว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 238 ราย

หนึ่งในนั้นคือ นางมาร์ลาร์วิน อายุ 39 ปี คุณแม่ลูกสามเธอถูกเจ้าหน้าที่ยิงเข้าที่ต้นขาในคืนวันศุกร์ (19 มี.ค.) ขาอีกข้างของเธอหักและใบหน้ามีรอยฟกช้ำหลายจุด

เพื่อนบ้านในละแวกบ้าน เล่าว่า หญิงรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐลากออกมาจากบ้าน แล้วหายไปออกไปจากบ้านทั้งคืนจนกระทั่งเช้าวันเสาร์ที่ 20 มี.ค. ครอบครัวของ นางมาร์ลาร์วิน ได้รับคำสั่งจากทางการให้ไปรับศพ

นางมาร์ลาร์วินเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์เท่านั้น แต่จู่ๆ เหล่าทหารก็เข้ามารุมทำร้าย เธอไม่มีทางหนี ทำได้แค่คุกเข่าขอร้องเท่านั้น” เพื่อนบ้านกล่าวเล่าเหตุการณ์

เหยื่ออีกรายเป็นเด็กนักเรียนมัธยมฯ อัง คัง เฮ็ด อายุ 15 ปี ถูกสังหารที่นครย่างกุ้งเมื่อวันเสาร์ที่20 มี.ค. เช่นเดียวกัน

เพื่อนบ้านของ อัง คัง เฮ็ด ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหยื่อเป็นเด็กที่กระตือรือร้นมาก มีส่วนร่วมประท้วงมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ กระทั่งคืนเกิดเหตุ ทหารปืนต่อเนื่องกว่า 10 นาทีเข้าไปละแวกบ้านของเด็กหนุ่ม เป็นเหตุให้ อัง คัง เฮ็ด ถูกกระสุนเจาะเข้าที่แก้มทะลุลำคอเสียชีวิต

อัง คัง เฮ็ด ถือว่าเป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุดจากการประท้วงต่อต้านระบบการปกครองของกองทัพเมียนมา

ด้านสำนักข่าว The Irrawaddy ยังได้รับรายงานอีกว่ามีรถของทหารและตำรวจคอยตระเวนปล้นทรัพย์สินของประชาชน เช่น เงินสด อาหาร แก๊สหุงต้ม หรือแม้กระทั่งปลาแห้งที่ชาวบ้านได้ทำไว้ ในบริเวณนครตูนเต ชานเมืองย่างกุ้ง รวมแล้วเกือบ 20 ล้านจั๊ต หรือราว 437,881 บาท

ชาวบ้านให้สัมภาษณ์ว่าต่อจากนี้นักเคลื่อนไหวและผู้สนับสนุนด้านการเงินจะตกเป็นเป้าของการปล้นและบุกรุกของทหารเมียนมา

สำหรับยอดผู้ถูกจับกุมในเมียนมาเพิ่มเป็น 2,330 คน ในจำนวนนี้เป็นนักข่าวและช่างภาพ 31 คน โดยผู้ประท้วงที่ถูกจับ ยังอยู่ในการควบคุมสอบปากคำหรือตั้งข้อหาของเจ้าหน้าที่ 1,980 คน รวมถึงนางออง ซาน ซูจี และอดีตประธานาธิบดีวิน มินต์ ที่ล่าสุดเขาโดนตั้งข้อหา “ละเมิดรัฐธรรมนูญ” ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 3 ปี