เริ่มแล้ว “กัญชากัญชง 360 องศา” ทุกสารทิศแห่ร่วมงานวันแรกคึกคัก

วันที่ 5 มี.ค.2564 เริ่มแล้วงานมหกรรม “กัญชากัญชง 360 องศาเพื่อประชาชน” ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) องค์การเภสัชกรรม กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ระหว่างวันที่ 5-7 มี.ค.2564

ภายหลังจากมีการพิจารณาปลดล็อกส่วนของพืชกัญชากัญชง ได้แก่ ใบที่ไม่ติดกับช่อดอก กิ่ง ก้าน ลำต้น เปลือก ราก และเส้นใย สารสกัดที่มีสาร ซีบีดี (CBD) เป็นส่วนประกอบ รวมถึงกากที่เหลือจากการสกัด ซึ่งจะต้องมีสารทีเอชซี (THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2, เมล็ดกัญชง น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหาร และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยภายในงานได้รวบรวมสาระความรู้เรื่องกัญชากัญชง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเปิดกว้างให้ประชาชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์สร้างรายได้ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ครบถ้วนทั้งความรู้ ที่เสริมสร้างความเข้าใจเรื่องกัญชากัญชงแก่ประชาชน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ โดยไฮไลท์สำคัญแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ นิทรรศการ เวทีเสวนา คลินิกกัญชา เวิร์กชอป และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์

ภายในงานมีการจัดเสวนา บรรยายให้ความรู้เรื่องกัญชาทางการแพทย์ กัญชงเพื่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีเวิร์กชอปกัญชากัญชงหลายรายการที่น่าสนใจ การสกัดน้ำมันกัญชง สกัดกัญชาทางการแพทย์ และเนื้อหาต่าง ๆ ทั้งกัญชาและกัญชง มีบูธนิทรรศการของภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ร่วมนำเสนอผลงาน ทั้งต้นกัญชา ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชามาจัดแสดงด้วย รวมถึงมีคลินิกกัญชาที่ประชาชนสามารถเข้ารับบริการกัญชาทางการแพทย์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

โดยวันแรกได้มีประชาชน และผู้ป่วยจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ มาร่วมงานและรับบริการตรวจรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งทุกคนที่จะเข้าร่วมงานจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ทั้งวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และลงทะเบียนทุกคน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

นายโอฬาร ชูเกียรติสกุล ประธานชมรมหมอพื้นบ้านแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานกัญชากัญชง 360 องศาเพื่อประชาชนที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ทั้งกับประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะได้มีโอกาสมาศึกษาเรียนรู้และเข้าถึงกัญชากัญชง ซึ่งการปลดล็อกกัญชาจากใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน เชื่อว่าเกิดประโยชน์กับประชาชน และผู้ป่วยที่ต้องใช้กัญชาในการรักษาโรคต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงได้ง่ายและถูกต้องตามกฎหมาย

นายโอฬาร กล่าวต่อว่า สำหรับตนมองว่ากัญชาเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ในการดูแลบำบัดสุขภาพร่างกาย ซึ่งก็อยากให้รัฐบาลได้ผลักดันให้สามารถนำทุกส่วน ของกัญชาไปประกอบอาหารรับประทานได้ เพราะตอนนี้ช่อดอกยังไม่ได้มีการปลดล็อก ซึ่งหากปลดล็อกตรงนี้ได้ เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์มากขึ้นกว่านี้ ตนในฐานะเป็นหมอพื้นที่ก็มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักวิชาการ และผู้รู้ที่มาร่วมงาน เพื่อนำไปต่อยอดในการนำพืชกัญชาไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยต่อไป

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า วันนี้ เห็นประชาชน นำกัญชามาเป็นวัตถุดิบในอาหาร และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็รู้สึกดีใจปรากฏความคืบหน้าของนโยบายกัญชาและกัญชง ซึ่งเริ่มต้นพัฒนามาจากการใช้เพื่อการแพทย์จนวันนี้เริ่มนำมาใช้ในทางเศรษฐกิจ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความร่วมมือในการผลักดันนโยบายนี้ โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันให้คำมั่นว่า เรื่องใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนจะช่วยกันผลักดันอย่างเต็มที่ เมื่อครั้งที่เริ่มทำนโยบายกัญชาใหม่ๆมีแต่คนค่อนขอดว่าทำไม่ได้ ก็ได้เพลงของ แอ๊ด คาราบาว มาเป็นกำลังใจในการทำงาน โดยในเนื้อเพลงนั้น ระบุว่า

“ฉันเคยอ่านนิทานอีสป ที่ในตอนจบ หนูช่วยราชสีห์ กัญชง กัญชา เป็นของดี ถ้ามีหนูช่วย ก็คงได้ใช้ ได้ใช้ในการที่ได้ปลูก จะกี่ต้น กี่ไร่ ก็ว่าไป ปลูกเป็นเศรษฐกิจ ยิ่งดีใหญ่ เกษตรกรไทย ได้ลืมตาอ้าปาก อ้าปาก ก็เพราะว่าได้ปลูก ได้ปลูก ถึงลืมตาอ้าปาก รากและต้น ใบ ดอกกัญชา ใช้ปรุงเป็นยา เป็นสมุนไพร ปรุงรส แกงเนื้อ แกงหมู แกงไก่ แทนผงชูรส เจริญอาหาร ห่างหายจากโรคภัย ยังทะเลาเบาลง จนหายขาด กัญชามีจารึกในประวัติศาสตร์ ว่าไทยเป็นชาติ ใช้กัญชา มาก่อนใคร สายเหนียวต้องหนูกันภัย สายอนามัย ต้องหนูกัญชา นโยบาย 6 ต้นเข้าท่า สาธารณทุกข์จะเปลี่ยนเป็นสุขสมใจ”

ซึ่งเปรียบประชาชนทุกคนเป็นราชสีห์ ขณะที่หนู ก็คือตน และผู้บริหารกระทรวงฯ ทุกท่าน ที่ต้องช่วยเหลือประชาชน ในความเป็นจริง ราชสีห์ นั้น ได้ช่วยหนู ให้มาทำงาน จากนี้ หนู ก็ต้องทำให้ราชสีห์ มีปากท้องที่ดีขึ้น โดยผลักดันให้กัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจ จะเห็นว่ากัญชา มีประโยชน์ในทุกส่วน ภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุข ย้ำ ว่า หากใช้กัญชา กัญชง ตามกฎหมายที้กำหนด ทางกระทรวงฯ พร้อมเข้าไปสนับสนุน อย่างแน่นอน

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้ยังมีกฎหมายคลายล็อกกัญชาและกัญชง อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรอการผลักดัน มั่นใจว่า หากสมาชิกรัฐสภามีความสำนึกในตัวเอง ว่าเป็นตัวแทนของประชาชนคนไทย มีหน้าที่เพียงสิ่งเดียวคือต้องบรรดาลประโยชน์ ความสุขให้คนไทย ท่านเหล่านั้นต้องสนับสนุนกฎหมายแก้ไขกัญชาของรัฐบาล และผมมั่นใจว่าท่านจะให้การสนับสนุน เพราะนี่ ไม่่การทำเพื่อกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่ง แต่เป็นการอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ประชาชน