สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. อิสราเอลเข้าสู่ขั้นแรกของการกลับไปมีชีวิตปกติ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนคืบหน้าและประสบความสำเร็จด้วยดี

กระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ผลของวัคซีนที่สั่งซื้อจากบริษัทไฟเซอร์มาฉีดให้ประชาชนได้ผลป้องกันโรคให้ประชาชน ถึงร้อยละ 95.8 ทั้งไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล และลดอัตราการตาย นอกจากนี้ พบว่าร้อยละ 98 วัคซีนมีผลป้องกันไข้และปัญหาการหายใจด้วย

อิสราเอลเป็นประเทศที่ประชาชนได้ฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก หรืออย่างน้อยร้อยละ 49 ฉีดโดสแรกไปแล้ว บรรดาร้านรวง ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์หวนกลับมาเปิดเป็นปกติเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวอย่างสวนสัตว์ เปิดรับคนได้เช่นกัน

ด้านโรงยิม โรงแรม โบสถ์ เปิดแล้วเช่นกัน เพียงแต่ผู้เข้าไปต้องมี “กรีน พาสปอร์ต” หรือ แอพฯ ที่เป็นใบรับรองว่าผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข มีอายุใช้งานได้ 6 เดือน หรือ 1 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีนโดสสอง

สำหรับคอนเสิร์ต และเกมแข่งขันกีฬา ให้เปิดโดยผู้ชมได้ 75% ของความจุ แต่ก็มีเพดานจำกัดสำหรับสถานที่ปิด 300 คน และกลางแจ้ง 500 คน

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีแิสราเอลกล่าวว่า ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ ชาวอิสราเอล ร้อยละ 95 ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี จะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

ด้านซินหัว รายงนว่า เมเกน เดวิด อาดอม (MDA) แห่งองค์การบริการฉุกเฉินแห่งชาติของอิสราเอล ในเมืองเทลอาวีฟ จัดตั้งจุดฉีดวัคซีนชั่วคราว เพื่อให้ชาวอิสราเอลแวะเวียนมารับวัคซีนได้สะดวกและแพร่หลายขึ้น