วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เมื่อไม่นานมานี้ น.ส.เบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ซึ่งถูกฟ้องร้องในคดีอาญามาตรา 112 จากเหตุการณ์ชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ได้เข้าไปปรึกษาหารือกับทางคณะที่ตนกำลังศึกษาอยู่ ถึงมาตรการช่วยเหลือในกรณีที่ตัวของนักศึกษาถูกฝากขัง

ทั้งนี้ ผลปรากฏว่า ทางคณะปฏิเสธที่คืนค่าเทอมให้ หากจะพักการเรียน และได้เสนอกับ น.ส.เบนจาว่า ทางคณะจะจัดให้มีการเรียนการสอนในเรือนจำทดแทน เนื่องจากกรณีที่นักศึกษาถูกฟ้องร้อง จนส่งผลกระทบต่อการเรียนนั้น เป็นเรื่องที่นักศึกษาต้องรับผิดชอบตนเอง

อย่างไรก็ดี น.ส.เบนจาเป็นเพียงหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว เนื่องจากยังมีนักกิจกรรมที่เป็นนักศึกษาอีกหลายคน จากต่างคณะ อาทิ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และคนอื่นๆ รวม 9 คน ที่ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน

โดยขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องมาตรการช่วยเหลือนักศึกษาที่ถูกฟ้องร้องแต่อย่างใด

นอกจาก มาตรการช่วยเหลือนักศึกษาที่ถูกแจ้งข้อหาที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้ว น.ส.เบญจาเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังมีท่าทีที่ล่าช้าในประเด็นการคืนค่าเทอม และมาตรการการเยียวยาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในส่วนของการคืนค่าเทอมนั้น ได้มีกลุ่มนักศึกษาจัดทำโครงการล่ารายชื่อนักศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการการคืนค่าเทอมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1,500 บาท จำกัดเฉพาะปริญญาตรี และต้องการให้มหาวิทยาลัยคืนค่าเทอมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ทุกระดับการศึกษา โดยมีนักศึกษารวมถึงบุคลากรในมหาวิทยาลัยสนใจร่วมลงชื่อกว่า 8,000 คน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังไม่สามารถหาเวลาว่างเพื่อพบปะหารือกับ ตัวแทนองค์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลุ่มนักศึกษาที่ทำโครงการล่ารายชื่อดังกล่าวได้