พณ.ช่วยชาวนา ออกประกาศราคากลาง จ่ายส่วนต่างประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวปีที่ 2

พณ.ช่วยชาวนา ออกประกาศราคากลาง จ่ายส่วนต่างประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวปีที่ 2

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2 ตามนโยบายรัฐบาลที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้แถลงต่อรัฐสภาและดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องมานั้น

ล่าสุด นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว การกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 ในงวดที่ 1 หรืองวดแรกของโครงการประกันรายได้ปีที่2

ตามที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ไปแล้วนั้น และเพื่อให้การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น

 

คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันเลยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 24/2563 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 1) อาศัยอำนาจตามความในข้อ 2.1 ของคำสั่งคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ที่ 3/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2562 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจึงออกประกาศ

สาระสำคัญคือ ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 1)ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวจนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 สำหรับข้าวเปลือกสีต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้ (1)ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 12,088.83 บาท (2)ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,862.55 บาท (3)ข้าวเปลือกจ้าว ตันละ 8,777.64 บาท (4)ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,933.04 บาท (5)ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,915.66 บาท

“จะเห็นว่าตามประกาศนี้จะมีในข้อ 2 ระบุการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง จะมีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ใช้ในการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับจ่ายเงินงวดที่ 1 ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้ตันละ 2,911.17 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,137.45 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,222.36 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,066.96 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,084.34 บาท โดยประกาศออกแล้ว ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 จึงเป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาจากการประกันรายได้เกษตรกรไว้ ทั้งนี้ กระบวนการต่อไปจะเป็นเรื่องที่ ธ.ก.ส.ปฏิบัติตามหน้าที่จ่ายส่วนต่างให้ชาวนาผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.ของเกษตรกรโดยตรง เกษตรกรที่ได้รับส่วนต่างในงวดนี้เป็นเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้คณะอนุกรรมการจะมีการพิจารณาทุก 7 วัน หรือทุกวันจันทร์” นางมัลลิกา กล่าว

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคนำเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และข้าวเป็นหนึ่งในพืชเกษตร 5 ชนิด และปัจจุบันเกิดภาวะข้าวราคาตกแต่ชาวนามีหลักประกันรายได้เกษตรกรตามโครงการนี้จึงได้รับส่วนต่าง โดยราคาเป้าหมายและปริมาณข้าวแต่ละชนิดที่ประกันรายได้ไว้คือข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน