โฆษก ตร. ยันดำเนินคดีผู้ชุมนุมทำผิด มีหลักฐานหมด! เผย ผบ.ตร.ฝากคิดให้รอบคอบหากคดีติดตัวเสียประวัติ

15 ต.ค. 63 เวลา 22.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ ตะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงถึงภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจได้ใช้กำลัง 15 กองร้อย หรือ 2,325 นาย ในการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุม ซึ่งถือว่าสามารถดูแลการชุมให้ผ่านไปได้ด้วยดีไม่เกิดการวุ่นวายหรือกระทบกระทั้ง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ฝากถึงประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ขอให้คิดให้รอบคอบ เนื่องจากหากมีการกระทำความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจะมีประวัติติดตัวและมีผลกระทบต่อไปในอนาคต โดยประชาขนที่จะนำรถบรรทุกน้ำ อาหาร รถขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายในวันพรุ่งนี้ (16 ตุลาคม)

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า แกนนำที่ถูกควบคุมตัวยังอยู่ที่ 22 ราย แบ่งเป็นแกนนำที่ถูกจับกุมตามหมายจับ 4 ราย รวมถึงแนวร่วมที่มีความผิดซึ่งหน้าจำนวน 18 คน โดยจะส่งฝากขังดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีที่มีรายงานว่านายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ระยอง ถูกตำรวจควบคุมตัวนั้นตนยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้

ส่วนการชุมนุมในวันนี้ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรงและตำรวจได้มีการประกาศเตือนและทราบแล้วว่าเรื่องใดสามารถทำหรือไม่ทำได้ หากมีใครฝ่าฝืนทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีผู่ชุมนุมบางส่วนได้พังกำแพง sky walk ทางเชื่อมระหว่างห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โรงพยาบาลตำรวจมุ่งหน้าบีทีเอสสยาม การกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิดเนื่องจากเป็นการกระทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ทั้งนี้ยังผมผู้ขุมนุมนำกระดาษไปติดกล้องวงจรปิดอีกด้วย จึงมองว่า”อันนี้หรือที่บอกว่าการชุมนุมโดยสงบ” การกระทำความผิดนี้หากทำผิดไปแล้วไม่ว่าแบบใดก็ตามขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลมาให้ดี ๆ เพราะหากถูกดำเนินคดีไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้ โดยขอให้ไปศึกษาแกนนำหรือผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้า

ขณะกรณีผู้ขุมนุมกดดันให้มีการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจะบกุมนัเฝ้น พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า การปล่อยตัวแกนนำนั้นต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนตามกฎหมาย เพราะหากไม่ทำผิดก็จะไม่ถูกดำเนินคดี หลังจากนี้ก็ว่าไปตามกระบวนยุติธรรม