วันที่ 3 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าคดีข่มขืนฆ่าหญิงวรรณะจัณฑาลของอินเดียวัย 19 ปี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง 5 นายประจำรัฐอุตตรประเทศ ถูกสั่งระงับปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เนื่องจากทำงานให้เป็นที่ครหาจนชาวบ้านลุกฮือประท้วงบานปลาย

คดีนี้ทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่างๆ รวมถึงที่กรุงนิวเดลี มีผู้ประท้วง 500 คน รวมถึงมุขมนตรีกรุงนิวเดลีและนักการเมืองจากชนชั้นจัณฑาล รวมตัวเรียกร้องความยุติธรรม

ผลการสอบสวนเบื้องต้นระบุว่า เหยื่อสาวถูกพบวันที่ 14 ก.ย. ในสภาพเปลือย ลิ้นถูกตัดขาด และกระดูกสันหลังหัก บริเวณนอกหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล วันที่ 29 ก.ย. ก่อนตายหญิงสาวให้การว่าถูกรุมโทรมและทำร้าย

แม้ว่าตำรวจท้องที่จับกุมผู้ต้องสงสัยชาย 4 คนมาดำเนินคดี แต่ตำรวจถูกตำหนิและวิจารณ์อย่างกว้างขวาง กรณีเผาร่างเหยื่อช่วงกลางดึกโดยไม่แจ้งครอบครัวก่อน อีกทั้งผิดจารีตทางศาสนา

จากนั้นตำรวจยังอ้างผลชันสูตรศพที่ใช้เวลานานเกินหลังเหยื่อถูกทำร้าย ว่าหญิงสาวไม่ได้ถูกข่มขืน ขัดกับคำให้การของเหยื่อก่อนตาย รวมถึงการให้ปากคำของแม่เหยื่อและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล

ไม่เท่านั้นตำรวจยังตั้งด่านล้อมหมู่บ้าน ห้ามสมาชิกในครอบครัวเหยื่อออกไปไหน และห้ามนักข่าวและนักการเมืองเข้าไปพบพูดคุย พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือจากคนในครอบครัวนี้

น้องชายของเหยื่อเผยว่า สมาชิกในครอบครัวต่างหวาดผวาว่าชีวิตตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าศาลสูงสั่งเจ้าหน้าที่ให้การคุ้มครองความปลอดภัยของสมาชิกในบ้านนี้ (คลิป NDTV)

ต่อมา วันที่ 2 ต.ค. นายโยคี อทิตยนาถ มุขมนตรีรัฐอุตตรประเทศ สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้กำกับการตำรวจเขตหัตถราส และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 4 นาย พร้อมสั่งให้ตำรวจเหล่านี้ไปทดสอบเครื่องตรวจจับการโกหก และตรวจสารเสพติดในร่างกายด้วย

คดีนี้เกิดขึ้นหลังอินเดียเพิ่งประหารนักโทษชาย 4 คน ผู้ก่อคดีรุมโทรมนักศึกษาสาวบนรถเมล์และโยนร่างลงมาถึงแก่ความตายในกรุงนิวเดลี เป็นคดีช็อกโลกเมื่อปี 2555 ขณะที่อินเดียมีคดีข่มขืนเฉลี่ยวันละ 87 ตามสถิติเมื่อปี 2562