“น้องบิ๊กตู่” ส.ว.ปรีชา จันทร์โอชา ลุกประท้วง “เสรีพิศุทธ์” พรรคฝ่ายค้าน เสรีรวมไทย หลังพาดพิง ตระกูลจันทร์โอชา ปมหลานชายตั้งบริษัท

เวลา 12:38 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า แม้ตนจะลงชื่อในการสนับสนุนญัตติฝ่ายค้านแต่เป็นตามมารยาท ตนและพรรคไม่ได้เห็นด้วยกับญัตติฝ่ายค้านและรัฐบาลโดยก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. ฉีกรัฐธรรมนูญและร่างใหม่

เพื่อสืบทอดอำนาจ ใช้อำนาจหัวหน้า คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เริ่มจากแต่งตั้ง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เป็นบุคคลที่มีความรู้เหมาะสม แต่พอร่างเสร็จแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พอใจ ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดที่ 2 ขึ้นมาอีก

นายบวรศักดิ์ เคยบ่นว่าที่ไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญของตนตอนนั้นเพราะอยากอยู่ยาว ดังนั้น กรธ. ชุดใหม่จึงต้องร่างเอาใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้ว่าต้องการเอาชนะสถิติของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะตอนนี้ก็อยู่มา 6 ปีแล้ว ทั้งที่งบประมาณในการยกร่างชุดแรกใช้ไปจำนวนมาก แต่ชุดที่สองก็ไปตั้งเฒ่าสารพัดพิษมาเป็นประธาน

ทำให้นายชวน ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้คำที่ไม่เหมาะสม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงขอเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘เฒ่าเจ้าเล่ห์’ จนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงเรื่องการใช้คำพูดไม่เหมาะสม และการนำเอกสารขึ้นมาอ่านผิดข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังคงอภิปรายพลาดพิงถึงบุคคลภายนอก รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ หลานชายของ พล.อ.ประยุทธ์ตลอด จนเกิดการประท้วงเป็นระยะ จากทั้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว. ทั้งนายกิตติศักดิ์. รัตนวราหะะ ส.ว. นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. รวมทั้งพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว.

โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำถึงเหตุผลควรแก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เพราะมีระบบสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ​ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแกนนำ ทั้งการแต่งตั้งส.ว. 250 คน และให้สิทธิเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กลับเป็นนายกฯ และการโฆษณาว่ารัฐธรรมนูญเป็นฉบับปราบโกง ทั้งที่พบการทุจริต ทั้งการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์

การตั้งบริษัทโดยหลานชายของพล.อ.ประยุทธ์, ประเด็นนาฬิกาหรู ทำให้ พล.อ.ปรีชา ลุกประท้วงและชี้แจงประเด็นหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “คนเรามีสิทธิ์ประกอบอาชีพของตนเอง และอาชีพที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ใส่ร้ายป้ายสี นำเรื่องไม่จริงมากล่าวกับที่ประชุมแห่งนี้ ตนขอให้ผู้อภิปรายถอนคำพูด”

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังนำภาพประกอบการอภิปราย ซึ่งปรากฎภาพของ ส.ว.หลายคนที่เกี่ยวข้องเป็นเครือญาติเกี่ยวข้องของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และให้ชื่อว่าส.ว.เพื่อนพ้องน้องพี่ ซึ่งพล.อ.ปรีชา ได้ลุกประท้วงว่าภาพของตนที่ปรากฎในแผ่นภาพยังไม่ได้ขออนุญาต

แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่สนใจกล่าวต่อวา ส.ว. ต้องให้ความเห็นชอบกับบุคคลที่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าคณะสรรหา ส.ว. แล้ว ส.ว. ก็ไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี 249 คน ขาดเพียงแค่ประธานคนเดียวที่งดออกเสียง เป็นการเอาบุญคุณส่วนตัวมาแลกกับผลประโยชน์ประเทศชาติ ได้นายกรัฐมนตรีที่ถวายสัตย์ไม่ครบ

ทำให้นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ประท้วงว่าไม่ให้ผู้อภิปรายกล่าวถึงบุคคลภายนอกหากรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่มีดีจริง พรรคการเมืองบางพรรคคงไม่ีโอกาสเข้าสภา ที่ได้เข้ามาเพราะเป็นคุณของรัฐธรรมนูญปี 2560

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายต่อว่า การพิจารณาญัตติดังกล่าวคือการต่ออายุให้พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ในอำนาจ ดังนั้นจึงเสนอความเห็น คือ 1.ให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง 2.เห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 3. แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนำฉบับประชาชนพิจารณา และ

4.จากนั้นยุบสภาเพื่อเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และวิธีที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกคือให้พรรคร่วมรัฐบาล คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจลาออก

แค่นี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่มีทางออก จากนั้นให้เลือกนายกฯใหม่ ขอย้ำว่าให้รีบตัดสินใจ ถ้ารีบลาออก ประเทศจะเดินหน้าต่อ นักศึกษาก็จะหยุด แล้วจะได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ