เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พะเยา กล่าวหลังจากร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน ว่า โดยส่วนตัวมองว่ากิจกรรมชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากมองในด้านการขยายแนวร่วม เครือข่ายทางการเมืองของกลุ่มต่อต้านเผด็จการ ซึ่งจะมีผลต่อข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นให้รัฐบาลไปแล้วในอนาคตอย่างแน่นอน เหตุที่ตนมองว่ามีการขยายแนวร่วมและเครือข่ายในการขับเคลื่อนทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย เนื่องจากสังเกตพบว่าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่จะเข้ามาสนับสนุนข้อเรียกร้อง และกิจกรรมทางการเมืองในอนาคตตามพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งกลุ่มแนวร่วม กปปส.ที่มีแนวคิดเปลี่ยนแปลง เพราะผลจากที่สังเกตพบความไม่ยุติธรรมในสังคมมีมากขึ้น

นายศิริวัฒน์กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือ อยากให้ขบวนแนวร่วมเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้น และปรากฏการณ์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาร่วมกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองมากขึ้น ขณะที่กลุ่มอื่นๆ เปิดตัวสนับสนุนมากขึ้น แนวโน้มทำให้แนวร่วมขยายตัวมากขึ้น เพราะการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในเวลานี้ เยาวชน คนรุ่นใหม่ มารับไม้ต่อ ขณะเดียวกันผู้คนในสังคมภาคส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ คาดว่าจะมาร่วมมากขึ้นในครั้งต่อไป

“เมื่อม็อบปลดแอกมีแนวร่วมและเครือข่ายขยายมากขึ้น คือผลดีต่อฝ่ายเรียกร้องอันจะมีผู้สนับสนุนออกมามากขึ้น หากตัวเลขการสนับสนุนเปลี่ยนแปลงเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจ ที่จะดำเนินการสนองตอบข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมได้มากขึ้น ส่วนข้อเรียกร้องจะทำได้มากน้อยเพียงใดคือการตัดสินใจของรัฐบาล สำหรับผมคิดว่าการชุมนุมครั้งนี้บรรลุผลในระดับหนึ่ง เพราะการเคลื่อนไหวได้มวลชน แนวร่วม กระบวนการต่อสู้ ที่เป็นตัวชี้วัดให้รัฐบาลสองตอบต่อข้อเรียกร้อง เพราะพลังผลักดันมากขึ้น” นายศิริวัฒน์กล่าว