เมื่อวันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมี ครม. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมฟังอย่างพร้อมเพียง

ในช่วงหนึ่งที่การอภิปรายตึงเครียดขึ้น เมื่อนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายใช้ถ้อยคำเสียดสี พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง ตั้งคำถามถึงนายกรัฐมนตรีเรื่องข่าวลือการทำรัฐประหารที่ประชาชนกำลังอกสั่นขวัญแขวน มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมืองไม่มีเสถียรภาพ จึงอยากถามนายกฯที่เคยทำรัฐประหารมาก่อนว่า มีความคิดจะปกป้องรักษาประชาธิปไตย ไม่ให้ถูกทำลายด้วยกองทัพอย่างไร

หากกองทัพใช้อาวุธยึดอำนาจ นายกฯจะรับมือกับการกระทำอันป่าเถื่อนอย่างไร และในฐานะที่ได้ดิบได้ดีจากการรัฐประหาร จะช่วยให้ประชาชนสบายใจขึ้นได้หรือไม่ โดยการจูงมือกองทัพมาประกาศจะไม่มีการทำรัฐประหารอีก

คำอภิปรายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่ม ส.ส.พลังประชารัฐไม่พอใจ พากันรุมประท้วง อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ระบุว่า นางอมรัตน์ทำผิดข้อบังคับ พูดจาเสียดสี ขอให้ประธานควบคุมการประชุมด้วย

ขณะที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่า นางอมรัตน์ทำผิดข้อบังคับการประชุม เรื่องการแต่งกายโดยแต่งชุดคอระบาย ไม่ใช่ชุดสากล ให้ไล่กลับบ้านไปแต่งตัวมาใหม่

ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม พยายามควบคุมการประชุม ขอให้อะลุ้มอะล่วยกันเรื่องแต่งกาย ไม่ต้องให้เป๊ะ 100% แต่นายนิโรธไม่ยอม ยืนยันว่า ทำผิดข้อบังคับการประชุม ขณะที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ประท้วง ขอให้ประธานควบคุมการประชุมให้ดีเพราะสิ่งที่นางอมรัตน์พูดคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ใช่การอภิปรายทั่วไป วันนี้มีส.ส.ที่ไม่รู้เรื่องเข้ามาในสภาจำนวนมาก ทำให้ส.ส.พรรคก้าวไกลตั้งท่าขอประท้วงกันยกใหญ่ ในที่สุดนายศุภชัยจึงตัดบทไม่ให้มีใครพูดต่อ ก่อนจะเริ่มอภิปรายกันต่อไป โดยเสียเวลาการประท้วงไปร่วม 20 กว่านาที