ขสมก. เพิ่มเที่ยวรถเมล์ รองรับคนเดินทางท่องเที่ยวกลับ ตจว. ช่วงหยุดยาวชดเชยสงกรานต์ 4-7 ก.ย.

ขสมก. เพิ่มเที่ยวรถเมล์ – นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2563 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ กำหนดให้วันศุกร์ที่ 4 และวันจันทร์ที่ 7 ก.ย. 2563 เป็นวันหยุดราชการ เพื่อชดเชยวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2563 ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ย. 2563 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชน ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว และเดินทางกลับต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ขสมก. จึงเตรียมความพร้อมจัดรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการของประชาชน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. เส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,928 คัน จำนวน 23,199 เที่ยว และเพิ่มการเปลี่ยนกะ ของพนักงานประจำรถ จำนวน 129 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ย. 2563

2. จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่ง จำนวน 4 สถานี รวม 36 เส้นทาง ได้แก่
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517, และ 536
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516 และ 556
– สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 2, 23, 25, 71, 72, 501,508 และ 511
– สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 10 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 7, 21, 25, 29 , 34, 73, 73 ก ,75 และ 501

3. จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่
– สาย A 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 20 คัน
– สาย A 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 15 คัน
– สาย A 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ 10 คัน
– สาย A 4 ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 10 คัน
– สาย S 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 8 คัน

ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นได้มีการเข้มงวดกวดขันพนักงานประจำรถ โดยมีการ กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร คอยดูแลการขึ้น-ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย , ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร

รวมทั้งให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็กสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถ ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตามมาตรฐานคุณภาพบริการ ISO 9001 : 2015 และจัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสาร ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ

รวมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาด ภายใน รถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวด เจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือ บริเวณประตูทางขึ้น, ติดตั้ง QR Code แอพพลิเคชันไทยชนะ บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือน ผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์