ส่วนพนักงานบริษัทและโรงงานหลายคนบอกว่า เริ่มถูกลดเวลาทำงานกระทบรายได้แล้ว

หลายๆ คนบอกหน่อยว่า “สุดจะทนกับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ อยากจะเปลี่ยน เอาคนทำงานเป็นมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ”

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญ แม้ว่าเป็นการเลือกตั้งซ่อม แต่เป็นการเลือกตั้งในช่วงที่ประชาชนกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ทั้งเรื่องปากท้องและความยุติธรรม รวมถึงวิกฤติศรัทธาในเรื่องการเมือง ดังนั้น การเลือกนางสลิลทิพย์เป็นตัวแทน แม้จะไม่สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยพลิกกลับมาเป็นรัฐบาลได้ แต่จะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะแสดงพลังและเจตนารมณ์ของคนไทยทั้งประเทศร่วมกันกับเยาวชนนิสิตนักศึกษาว่า ประชาชนไม่เอารัฐบาลที่ทำงานไม่เป็นอีกต่อไปแล้ว

ที่สำคัญคือ เรากำลังสู้กับเผด็จการแปลงร่าง วันนี้ถ้าต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนในการแสดงออกแทนประชาชนทั้งประเทศว่า ไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาคนที่ทำให้เรายากจน ไม่เอาคนที่บริหารงานไม่เป็น ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้น

สำหรับคุณสลิลทิพย์ เธอเป็นลูกหลานชาวสมุทรปราการ และเป็น อดีต ส.ส. 3 สมัย ที่สำคัญคือ เธอยืนหยัดต่อสู้ในระบอบประชาธิปไตย แม้ในห้วงที่ถูกรัฐประหาร จะถูกอำนาจรัฐและเงินกดทับ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างคุณสลิลทิพย์ ไม่ยอมทรยศต่อประชาชน ไม่ยอมเปลี่ยนขั้ว ย้ายข้าง ต่างจากบางคน ที่ย้ายพรรคทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ทิ้งพี่น้องสมุทรปราการ จึงยืนยันได้ว่า คุณสลิลทิพย์ไม่มีทางเปลี่ยนข้าง ย้ายขั้วเป็นงูเห่าไปสนับสนุนรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน

สุดท้าย ขอเชิญชวนพี่น้องชาวสมุทรปราการ จับตาดูการเลือกตั้งครั้งนี้อย่ากระพริบตาว่า จะมีการโกงการเลือกตั้งหรือไม่ วันนี้พรรคเพื่อไทยขอเชิญชวนพี่น้องชาวสมุทรปราการ โดยเฉพาะนักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้ร่วมกันเป็นอาสาสมัครภาคประชาชนเพื่อ“ปราบโกงเลือกตั้งสมุทรปราการ” เพื่อทั้ง 351 หน่วย อย่าให้คนขี้โกงได้ใจ หากมีเบาะแสหรือเรื่องร้องเรียน ส่งมาได้ที่เพจพรรคเพื่อไทย หรือเฟสบุ๊ค Sudarat ก็ได้ค่ะ

มาร่วมประสานเสียง แสดงพลังและเจตนารมณ์ของคนไทยทั้งประเทศร่วมกันนะคะ