สุภรณ์ อัตถาวงศ์ มั่นใจ ปชช.เห็นด้วยต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ข้อกังวลทุจริต นายกฯไม่ยอมเด็ดขาด

สุภรณ์ อัตถาวงศ์ มั่นใจ ปชช.เห็นด้วยต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ข้อกังวลทุจริต นายกฯไม่ยอมเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณี 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายสุทิน คลังแสง และนายวัฒนา เมืองสุข ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะอาจเป็นข้ออ้างในการแสวงหาผลประโยชน์ในการใช้งบประมาณ หรือเกรงว่าจะมีการเปิดช่องทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่ต้องประมูล ว่าหากแกนนำพรรคเพื่อไทยได้ฟังนายกฯ และ ศบค.แถลงข่าว จะทราบว่าการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้นั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่อาจมีการระบาดอีกรอบ เนื่องจากในต่างประเทศยังมีสถานการณ์อยู่และเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไทยเราจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเชื้อไวรัสหวนกลับมาอีก พรรคเพื่อไทยจะรับผิดชอบความสูญเสียได้ไหม

นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ที่จะมีการเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ รวมถึงการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีความสำคัญคือ สามารถควบคุมการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรทุกช่องทาง สามารถจัดทำระบบติดตามตัว กักตัว หรือเฝ้าระวังได้ รวมทั้งการควบคุมโรค โดยใช้มาตรการครอบคลุมในทุกกิจกรรมและกิจการที่เกี่ยวข้อง โดยจะช่วยจัดการได้ทันท่วงที และยังเป็นการบูรณาการการทำงานให้เป็นเอกภาพ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังมองว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังอยากให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ เพราะสามารถทำให้ลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยเห็นได้จากที่กรุงเทพโพลล์ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจมากต่อการบริหารจัดการโควิด-19 ของรัฐบาล และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีส่วนต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มากถึงมากที่สุด จึงยังมั่นใจว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 คลี่คลายลงมากกว่านี้แล้ว นายกฯจะยกเลิกอย่างแน่นอน ทั้งนี้ นายกฯก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาจจะกระทบกับประชาชนอยู่บ้าง แต่ก็ได้มีการผ่อนปรนมาตรการกิจการและกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นเกือบหมดทุกอย่าง เพราะนายกฯมีความห่วงใยผู้ประกอบการต่างๆ ให้สามารถเปิดกิจการ สร้างรายได้ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศขยับตัวขับเคลื่อนไปได้

ดังนั้น ขอให้ฝ่ายค้านใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งกลัวไปก่อนว่าการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นการเปิดช่องว่างให้มีการทุจริตในช่องทางต่างๆ และทางฝ่ายค้านเองก็มีกระบวนการตรวจสอบหลายช่องทาง ในสภาก็มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบติดตามการใช้งบ พ.ร.ก.กู้เงิน และงบโควิดอยู่แล้วมิใช่หรือ ซึ่งนายกฯได้ย้ำอยู่เสมอ ที่จะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น โดยหากมีข้อมูลหลักฐานต่างๆ ในการทุจริตก็ขอให้นำมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งหากพบมีความผิดจริง นายกฯจะไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน

วันนี้พรรคเพื่อไทยเอาเวลาไปบริหารจัดการภายในพรรคตนเองเองก่อนจะดีกว่า อย่าให้แกนนำในพรรคต้องไหลทะลักออกมาตั้งกลุ่มใหม่ จนเกิดการขัดแย้งทะเลาะกันรุนแรงในพรรคอย่างหนักตามที่เป็นข่าว เอาเวลาไปคิดที่จะทำพรรคไม่ให้แตกแยกดีกว่าที่จะต้องมากังวลกับรัฐบาล เพราะทั่วโลกให้การยอมรับแล้วว่านายกฯ และรัฐบาลไทยบริหารจัดงานกับไวรัสโควิดได้ดีที่สุด ก็เหลือแต่ฝ่ายค้านเมืองไทยนี่แหละ ที่จ้องค้านไปทุกเรื่อง ค้านแบบไร้เหตุผลตลอดมา จนประชาชนเบื่อหน่ายที่สุด


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่