‘เกศปรียา’ ซัดรัฐบาลคง พรก.ฉุกเฉิน คำนึงอำนาจส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์คนทั้งชาติ

‘เกศปรียา’ ชี้ คนไทยต้องทนกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ไป เพราะรัฐบาลที่คำนึงถึงอำนาจส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ ด้วยการคง พรก. ฉุกเฉิน ต่อทั้งๆ ที่อีก 1 วันก็จะครบ 1 เดือนของการไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศรายใหม่

วันที่ 24 มิถุนายน 2563 น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่าในโอกาสรำลึก 88 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย สิ่งหนึ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับตนและคนรุ่นใหม่มากๆ คือ ทุกวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งจัดเป็นวันครบรอบที่คณะราษฎร์ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำไมไม่มีการจัดงานรำลึกวันครบรอบการเปลี่ยนแปลงให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับนานาชาติ สำหรับวันที่มีความสำคัญต่อระบบการปกครองของประเทศ อีกทั้งวันนี้ไม่ถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการด้วย

ประเด็นที่น่าประหลาดใจเพิ่มขึ้นคือ เมื่อมีประชาชนจะจัดกิจกรรมรำลึกถึงวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง กลับมีข่าวจากโฆษกกระทรวงกลาโหม ว่า กิจกรรมที่จัดขออย่าให้ก้าวล่วงกฎหมาย ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีการสั่งการจาก ผบ.ตร. ให้เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 24 มิถุนายน เนื่องจากอาจจะมีการนัดชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ในวันดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พรก.ฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อคุมโรคระบาดไวรัสโควิด 19 ว่า ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องต่อ ในวันที่ 23 มิถุนายน ทั้งๆ ที่ 29 วันก่อนหน้าไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ทำให้มองได้ว่า พรก. ฉุกเฉิน มีไว้เพื่อห้ามมิให้ประชาชนจัดกิจกรรมรำลึกถึงวันเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งแสดงว่า รัฐบาลที่ชอบอ้างกับนานาชาติว่า เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย มาด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ไม่เคยศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยที่ยอมรับฉันทามติความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง เป็นเพียงรัฐบาลสวมเสื้อคลุมประชาธิปไตยปิดบังร่างเผด็จการเอาไว้ ซึ่งไม่มีทางที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยได้อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยกล่าวอ้างตั้งแต่ปี 2557 ดังเช่นที่ อ. ‘ปรีดี พนมยงค์’ ได้เคยกล่าวไว้กับผู้สื่อข่าว BBC เมื่อปี 2525 ว่า ‘บุคคลที่ไม่มีจิตใจประชาธิปไตยก็ไม่อาจปฏิบัติการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการเมือง ให้เป็นเศรษฐกิจประชาธิปไตยและการเมืองประชาธิปไตยได้’

“คนไทยส่วนใหญ่คงต้องล้มหายตายจากและทนกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย การปกครองที่ไม่ต้องการฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ต่อไป เพราะมีรัฐบาลที่คำนึงถึงอำนาจและผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ ด้วยการคง พรก. ฉุกเฉิน ต่อทั้งๆ ที่อีก 1 วันก็จะครบ 1 เดือนของการไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศรายใหม่ โดยที่รัฐบาลมีข้อมูลว่า ประชาชนมีความลำบากทางเศรษฐกิจมากในการคง พรก.ฉุกเฉิน แต่เพื่อความมั่นคงของอำนาจ รัฐบาลเลือกตัดสินใจบนผลประโยชน์ของตนเอง” น.ส.เกศปรียา กล่าว

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่