“องอาจ” จี้ รบ.ใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากรองรับ นิวนอร์มอล

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการใช้เงินตาม พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ว่า พ.ร.ก.กู้เงินนี้ในจำนวน 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 600,000 ล้านบาท สำหรับแผนงานด้านสาธารณสุขและแผนงานเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนอีก 400,000 ล้านบาท ใช้ในแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม

ซึ่งในส่วนของการใช้เงิน 600,000 ล้านบาท อยากให้รัฐบาลเร่งใช้จ่ายเงินให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และตรงตามจุดประสงค์ของ พ.ร.ก. กู้เงินให้มากที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของการเยียวยาชาวบ้านผู้มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำ ซึ่งเดือดร้อนจากการไม่สามารถทำมาหากินได้ตามปกติ สำหรับ 400,000 ล้านบาทที่ พ.ร.ก. กู้เงินระบุให้ใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมนั้น ขอฝากให้รัฐบาลใช้เงินส่วนนี้เพื่อกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างจริงจังทั้งในชนบทและในชุมชนเมือง

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ยังอยู่กับเรา คนหาเช้ากินค่ำในชุมชนเมืองส่วนมากคือคนที่มีพื้นฐานมาจากชนบท เมื่อสังคมเมืองหางานทำยากลำบากมากขึ้น คนเหล่านี้ก็จะหวนกลับไปใช้ชีวิตในชนบท รัฐบาลจึงควรใช้เงินตาม พ.ร.ก. กู้เงินนี้ไปสร้างงานในชนบทให้คนเหล่านี้มีงานทำ มีรายได้หาเลี้ยงชีพ รัฐบาลอาจใช้โอกาสนี้สร้างงานจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือการพัฒนาอาชีพการเกษตร เพื่อรองรับความปกติใหม่ New Normal รวมทั้งการสร้างงานเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม นอกจากจะช่วยสร้างงานให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว ยังช่วยพัฒนาชนบทให้เข้มแข็งมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับคนหาเช้ากินค่ำที่มาจากชนที่มาจากชนบทแล้วเข้ามาอยู่ในชุมชนเมืองมานานจนไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในชนบทได้อีกแล้ว รัฐบาลควรวางแผนสร้างงานให้คนกลุ่มนี้ที่ต้องใช้ชีวิตในชุมชนเมืองต่อไปให้สามารถมีงานทำ มีรายได้พอที่จะมีชีวิตอยู่ได้ นอกจากสร้างงานแล้วอาจจะสร้างเสริมทักษะแรงงานเพิ่มขึ้นให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมหลังโควิด-19

“รัฐบาลจึงต้องประเมินว่าสังคมการใช้แรงงานของไทยจะเป็นเช่นไร แล้ว รีบเตรียมความพร้อมให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง จึงขอฝากรัฐบาลให้ใช้เงินตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 400,000 ล้านบาทเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างจริงจังเพื่อเป็นพื้นฐานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไปในที่สุด” นายองอาจ กล่าว