“สุทิน” สวนรัฐบาล เอาสถานการณ์โควิด เป็นข้ออ้างหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากปชช.

“สุทิน” สวน รบ. เอาสถานการณ์โควิด เป็นข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากฝ่ายค้าน-ปชช.

เมื่อวันที่ 28 เมษนยน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.จังหวัดมหาสารคาม พรรคพพท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลมีมติไม่ให้เปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญว่า ตนไม่ผิดหวัง เพราะคาดไม่ผิดมาแต่ต้นว่ารัฐบาลจะต้องหนีสภาฯอยู่แล้ว แม้สมัยประชุมปกตินายกฯก็หนีการประชุมตลอด ส.ส.รัฐบาลเองก็เช่นกันชิงปิดประชุมบ้าง หนีประชุมบ้าง กดบัตรแทนกันบ้าง แต่คราวนี้ผมเสียดายโอกาสของประชาชนที่จะได้สะท้อนความทุกข์ยาก เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ตลอดทั้งตรวจสอบการทำงานในวาระพิเศษนี้ ผมว่าทุกคนควรตระหนักว่าขณะนี้เราอยู่สถานการณ์พิเศษ ปัญหาที่คุกคามเราใหญ่โต รุนแรง เกินกว่าที่คนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรับมือได้ ต้องระดมความคิด ระดมกำลังกัน สภาฯก็ต้องถือเป็นภาระที่จะต้องเป็นหลักเป็นที่พึ่งให้ประชาชน โดยปรับตัวให้ทันต่อปัญหาหลายปัญหาที่ต้องจัดการให้ทันเวลา จะนอนรอวันเปิดสภาฯปกติคงสายเกินไป อาทิ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จนป่านนี้เวลาล่วงเลยมาจะ 1 เดือนแล้ว เงินยังถึงมือประชาชนไม่ถึงครึ่ง ผู้คนก็เดือดร้อนหนักขึ้นทุกวันถือว่าล้มเหลว สอบตก เงินที่จะนำมาใช้รัฐก็ติดขัด ไม่พอ ไม่ทัน ทำไมไม่รีบนำ พรบ.ถ่ายโอนงบประมาณเข้าสภาฯ จะรอไปทำไมอีกเดือนกว่า คนไม่มีจะกินอย่าว่าแต่ 1 เดือนเลย 1 วันก็อยากฆ่าตัวตายแล้ว และประการสำคัญรัฐบาลจะกู้เงินครั้งมโหฬารมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นการกู้แบบเร่งด่วน ไม่มีแผนงาน แถมตั้งระบบบริหารแบบพิเศษที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์คือใช้คณะบุคคลเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเองมาบริหาร เป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริตโดยง่าย และยังมีประเด็นล่อแหลมที่อาจทำให้ฐานะการเงินประเทศต้องพังเพราะไปเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนใหญ่ซึ่งเราเคยมีบทเรียนมาแล้วในอดีต วันนี้รัฐบาลออกพรก.ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชน นี่คืออีกเรื่องใหญ่ที่คนในชาติยังกังวลและเห็นต่างกัน รวมทั้งเรื่องใหญ่อีกเรื่องคือ CPTPP ที่รัฐบาลจะด่วนตัดสินใจ เรื่องสำคัญบางส่วนที่กล่าวมาทั้งหมด รัฐบาลควรนำมาให้ประชาชนมีส่วนร่วมวิพากษ์ วิจารย์เสนอแนะและตรวจสอบอย่างทันการ ทันเวลาแต่กลับเดินหน้าทำไปโดยลำพัง จะนำเข้าสภาให้ตัวแทนประชาชนตรวจก็เมื่อผ่านไปแล้ว 1เดือนเศษคือรอสภาฯเปิดปกติ อย่างนี้เรียกว่า กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้หรือปล่อยให้อ้อยเข้าปากช้างไปแล้วก็เอาคืนยาก

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนข้ออ้างที่ว่า เกรงว่าการประชุมสภาฯจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด ตนเห็นว่าเป็นการฉวยโอกาสเอาโควิดเป็นข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากฝ่ายค้านและประชาชน เราตระหนักเรื่องนี้ดีและเรามองเห็นมาตรการป้องกันที่ทำได้เช่นเดียวกับท่านประธานสภาฯ และตนขอถามไปยังรัฐบาลว่า ถ้าโควิดยังทรงอยู่แบบนี้ไปอีก 1 ปี ก็จะไม่มีการประชุมสภาฯอีก 1 ปีใช่หรือไม่ และข้ออ้างที่ว่าแม้รายชื่อครบ เสนอประธานสภาฯจะเปิดได้ก็เกือบปลายเดือนอยู่ นี่ก็ไร้สาระ ประธานสามารถใช้ดุลยพินิจเปิดเร็วให้ทันปัญหาได้ ส่วนคำถามจากประธานวิปรัฐบาลที่บอกถ้าเปิดสภาแล้วเชื้อโควิดกระจายใครรับผิดชอบ เป็นการหลับตาถามกวนๆ งั้นตนขอถามกลับให้คิด คนฆ่าตัวตายเพราะไม่มีกินรัฐบาลจะรับผิดชอบมั้ย ถ้ากู้มามโหฬารอย่างนี้ ไม่ถาม ไม่ฟังใครอย่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐบาลรับผิดชอบหนี้ก้อนหนี้มั้ย และการที่รัฐบาลอุ้มแต่คนรวย แล้วแบ่งเศษเนื้อให้ชาวบ้านใครรับผิดชอบ