“โป๊ปฟรังซิส” ตรัส “โควิด-19” ธรรมชาติตอบสนองต่อ “มนุษย์” ผู้เพิกเฉยโลก

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกทรงมีพระดำรัสว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ “โควิด-19” เป็นหนึ่งในการตอบสนองของธรรมชาติต่อมนุษย์ที่เพิกเฉยต่อวิกฤตการณ์ทางระบบนิเวศในปัจจุบัน

โดยข้อความดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบทประทานสัมภาษณ์ทางอีเมล ซึ่งได้รับการเผยแพร่โดยนิตยสารเดอะแท็บเล็ตและนิตยสารคอมมอนเวลธ์ ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปายังทรงระบุด้วยว่า โรคระบาดได้ก่อให้เกิดโอกาสให้อัตราการผลิตและการบริโภคช้าลง รวมทั้งเปิดโอกาสให้มนุษย์พิจารณาและทำความเข้าใจธรรมชาติของโลกมากขึ้น

สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีพระดำรัสว่า ก่อนหน้านี้ “เราไม่ตื่นตัวต่อความเสียหายในบางส่วนของโลก ขณะนี้มีใครบ้างที่พูดถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในออสเตรเลีย หรือจำได้ว่าเมื่อ 18 เดือนก่อน มีเรือลำหนึ่งสามารถเดินทางตัดข้ามขั้วโลกเหนือได้เพราะธารน้ำแข็งละลายจนหมด ตอนนี้มีใครบ้างที่กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วม ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งนี้เป็นการแก้แค้นของธรรมชาติหรือไม่ แต่นี่คือการตอบสนองของธรรมชาติอย่างแน่นอน”

สถานการณ์โรคระบาดในขณะนี้กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสำนักวาติกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยในวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันสำคัญทางของศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่เรียกว่า วันอาทิตย์ใบลาน สมเด็จพระสันตะปาปาทรงประกอบพิธีเฉลิมฉลอง ท่ามกลางมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ไร้ผู้คน

ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาพระชันษา 83 ปี ทรงมีพระอาการคล้ายผู้ป่วยโควิด-19 แต่จากการทดสอบ 2 ครั้งยังไม่พบเชื้อในพระองค์ โดยทรงประชวรด้วยอาการหลอดลมอักเสบเท่านั้น และขณะนี้ทรงหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสวดภาวนาให้กับ “ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนอันยิ่งใหญ่” ในขณะนี้

ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว สมเด็จพระสันตะปาปายังทรงวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติต่อคนไร้บ้าน “ในภาพถ่ายที่ปรากฏว่าคนไร้บ้านจำนวนมากถูกกักกันโรคในลานจอดรถ ทั้งที่โรงแรมต่างว่างเปล่าแต่คนไร้บ้านกลับไม่สามารถไปกักโรคที่โรงแรมได้ นี่เป็นช่วงเวลาที่ควรให้ความสำคัญกับผู้ยากไร้” พร้อมทั้งทรงย้ำเตือนว่า สังคมอย่าปฏิบัติต่อคนกลุ่มนี้เหมือน “สัตว์ที่ได้รับการช่วยชีวิต”

ประชานิยมเพื่อฉวยโอกาสในช่วงวิกฤตสร้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจเด็ดขาดของตนเอง เช่นเดียวการขึ้นสู่อำนาจของจอมเผด็จการอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในปี 1933 รวมถึงผู้ที่คำนึงถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจความเสียหายทางสังคม

ในช่วงท้าย สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสยังทรงได้ประทานขวัญกำลังใจให้ผู้ที่ต้องกักตนเองอยู่ในที่พักอาศัยในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ให้สามารถแสวงหาหนทางที่สร้างสรรค์ในการอยู่บ้านได้อย่างมีความสุข “ดูแลตัวเองให้ดีสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง”