วันที่ 7 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องหยุดงานหรือตกงานขาดรายได้ จนต้องหันไปพุ่งโรงรับจำนำเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่งผลให้บรรยากาศที่สถานธนานุบาลของรัฐและเอกชนในพื้นที่ จ.สงขลา มีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำตั้งแต่เปิดให้บริการเวลา 08.00 น. ซึ่งมีทั้งทองคำ เครื่องประดับ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

จากการสอบถาม นางบี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 40 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกับหลานสาวและนำเครื่องปั่นอาหารใส่ถุงพลาสติกมาจำนำ เปิดเผยว่า ตนเองทำงานอยู่ที่โรงยางแห่งหนึ่ง แต่ถูกคัดออกและต้องตกงาน ทำให้ไม่มีเงินใช้ อีกทั้ง ช่วงนี้งานหายากร้านค้าร้านอาหารก็หยุดชั่วคราว จึงได้นำเครื่องปั่นอาหารที่เพิ่งผ่อนหมดมาจำนำหาเงินไปใช้

ด้าน นายพิชัยยศ เล้นสิ้น ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวว่า ปกติช่วงเดือนมี.ค.-มิ.ย. เป็นช่วงที่เงินไหลออก เพราะเป็นช่วงที่ใกล้เปิดเทอมทำให้ประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 2 แสนบาท ปีนี้ต้องมาพบกับวิกฤติโควิด-19 หลายคนเดือดร้อนขาดสภาพคล่อง จึงต้องมาใช้บริการโรงรับจำนำ

“โดยทรัพย์สินที่นำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นทองคำและเครื่องใช้ไฟฟ้า แม้กระทั่งธนบัตรเก่าและธนบัตรที่ระลึก ที่บางคนเก็บสะสมไว้เป็นอัลบั้มก็นำมาจำนำเช่นกัน มีทั้งแบงค์ 20 แบงค์ 100 แบงค์ 500 และ แบงค์ 1,000 หรือเหรียญและธนบัตรที่ระลึกในโอกาสสำคัญต่าง ๆ ซึ่งธนบัตรเหล่านี้โรงรับจำนำจะจ่ายในอัตราร้อยละ60 ของมูลค่าจริง” นายพิชัยยศ กล่าว

นายพิชัยยศ กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้ทางสถานธนานุบาล เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้สำรองเงินไว้ 100 กว่าล้านบาท เพื่อรองรับประชาชนที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นจากวิกฤติโควิด-19 คาดว่าเพียงพอที่จะให้บริการประชาชนได้