วิปฝ่ายค้าน ลั่นกลองสู้รัฐบาล แม้มือสู้ไม่ได้ แต่หลังซักฟอก เจอกระแสสังคมกดดันแน่

วิปฝ่ายค้าน ลั่นกลองสู้ รบ.ยกสมัยพลังธรรม ถอนตัวรัฐบาลชวน มือสู้ไม่ได้ แต่เจอกระแสสังคมกดดันแน่ หลังจบศึกซักฟอก

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา เกียกกาย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า แม้จะยังไม่ 100% แต่ฝ่ายค้านได้เตรียมความพร้อมไว้ถึง 95% แล้ว เหลือเพียงการส่งรายชื่อผู้ที่จะอภิปรายแต่ละพรรคอีกครั้งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น โดยเนื้อหาสาระลงตัวเรียบร้อย เหลือแค่ทักษะและความเชื่อมั่นของผู้อภิปราย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็น ส.ส.หน้าใหม่ ยกเว้นพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชาติเท่านั้นที่เป็นพวกหน้าเก่า โดยฝ่ายค้านเตรียมผู้อภิปรายไว้ถึง 35 คน และเริ่มเปิดประเด็นเรื่องย้ายโรงงานยาสูบที่อยู่ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อนำที่ดินไปเอื้อประโยชน์กับเจ้าสัวออกมาเพื่อเป็นการปลุกเร้าเป็นตัวอย่างบางตอนให้สังคมติดตามเพื่อให้สังคมร่วมตรวจสอบไปด้วย เชื่อว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มีผลกระทบต่อรัฐบาลแน่นอน และเข้าใจว่า การอภิปรายรอบนี้สังคมข้างนอกสภา โดยเฉพาะโลกโซเซียล จะมีส่วนร่วมกับสภาอย่างมาก

นายสุทินกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ภายหลังฝ่ายค้าน เชื่อมั่นว่า ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีไม่ต่ำกว่า 5 เรื่องที่จะสามารถส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยรอบนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์แน่นอน แม้หลายเรื่องจะเป็นเรื่องที่เรารู้หรือเคยได้ยินกันอยู่แล้ว แต่สังคมอาจจะคาดไม่ถึงว่า เมื่อลงลึกในรายละเอียดแล้ว มันจะเลวร้ายได้มากถึงขนาดนี้ โดยทุกเรื่องที่ฝ่ายค้านอภิปรายนั้น จะสามารถเอาผิดรัฐมนตรีผู้นั้นได้ เพราะฝ่ายค้านคัดกรองมาแล้ว โดยจะส่งแรงกดดันไปยังพรรคร่วมรัฐบาลด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคนั้นๆ ว่าจะให้น้ำหนักเพียงใด หรือเด็ดเดี่ยวมั่นคงในผลประโยชน์ประชาชนมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อมั่นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้จะไม่ต่างกับที่ผ่านมา เมื่อจบการอภิปราย พรรคการเมืองที่ยึดมั่นต่อประชาชน และแคร์สังคม จะลุกขึ้นมายื่นคำขาดให้พรรคแกนนำทำอะไรเสียอย่าง อย่างมีอยู่ปีหนึ่งที่พรรคพลังธรรมลุกขึ้นมาขอถอนตัวในการร่วมรัฐบาล ทำให้รัฐบาลชวน หลีกภัย จนต้องยุบสภา เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกัน จะมีพรรคขอถอนตัว

“เพราะผมยังมั่นใจว่า พรรคการเมืองจะไม่ทนกับกระแสสังคม ผมไม่อยากเปรียบว่าเวลาสุนัขป่วย เห็บเหาก็ต้องไม่อยู่ด้วยแล้ว ต้องหาทางหนี เอาตัวรอด เชื่อว่า จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับระดับสำนึกและความเปราะบางทางจริยธรรมของแต่ละคน ท่านประยุทธ์ อาจจะมากหน่อย” นายสุทินกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่า พรรคอนาคตใหม่จะไม่ถูกยุบ แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคจริงๆ เสียงที่หายไปของฝ่ายค้าน คือ คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่เป็น ส.ส. และ จะมี ส.ส. 3 คนที่เป็นกรรมการบริหารวางไว้ให้อภิปรายหายไปด้วย ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่ได้มีระบบทดแทนไว้แล้ว โดยฝ่ายค้านไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องมือในสภาเท่านั้น เพราะถึงอย่างไร เรื่องมือเราสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่เราให้ความสำคัญด้านกระแสสังคมมากกว่า ส่วนจะมีงูเห่าหรือไม่ คงไม่ต้องควบคุมอะไรมาก เพราะตอนนี้มาถึงขั้นสังคมควบคุมแล้ว สังคมตรวจสอบถี่ยิบ โดยขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานว่า มีการแจกกล้วย แต่ถ้ามีก็มีวิธีดูง่ายๆ คือ โหวตสวนมติพรรคแล้วอธิบายไม่ได้ งูเห่าจะเลื้อยไปไหนก็เห็นหมดอยู่แล้ว