“บิ๊กตู่” ลั่น ม.44 รังแก “ปู” ไม่ใช่เรื่องของผม บ่นปวดหัวแต่เช้า ถึงขั้นเรียกหมอนวดคล้ายเส้นตอนนั่งประชุม ครม. สั่งสถานบริการอย่าแต่งตัวล่อแหลม ส่อเจตนาไม่ดี หวั่นกระทบภาพลักษณ์

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะผู้บริหาร เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม “ผลงานนักเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี 2562” จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบรังสีทรงกรวย และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีฐานด้านการบูรณาการระบบเพื่องานหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ สำหรับใช้งานในระบบอุตสาหกรรม

จากนั้นนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำคณะผู้บริหาร วธ. ผู้บริหารกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้อำนวยการโรงเรียนการแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์และทีมสาธิตการนวดไทย เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ภายหลังองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทย มรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้หมอนวดไทยทดลองนวดบริเวณบ่าและไหล่ พร้อมได้อ่านจารึกวัดโพธิ์และตำรานวดอย่างสนใจ ซึ่งปัจจุบันมีหมอนวดวัดโพธิ์ ได้ผ่านการอบรมกว่าแสนคนทั้งไทยและต่างประเทศ

ทันใดนั้นนายกรัฐมนตรีบอกให้หมอนวดได้นวดแรงๆ ถ้านวดเบาแล้วไม่รู้สึกอะไร พร้อมกล่าวว่า “ฉันปวดหัวแต่เช้า ปวดหัวทุกวัน เส้นตึง” และถามหมอนวดว่า หลังจากนี้ว่างหรือไม่ ตอนนั่งประชุม ครม. จะให้ขึ้นไปนวดให้ด้วย และกล่าวว่า “สบายดี หายปวดหัวไปตั้งเยอะ เพราะปวดหัวตั้งแต่เช้า” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเส้นตึงแล้วเครียดหรือไม่ นายกฯ บอกว่า “พวกสื่อสบาย ไม่ต้องเครียด แต่รัฐบาลต้องทำงานทุกวันทั้งปี ต้องเดินไปข้างหน้าเพื่อส่งต่องานให้ได้ ไม่ใช่ทำงานแต่วันนี้แล้วจบ ทุกๆ เรื่องต้องทำต่อไป”

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับหมอนวดแผนไทยว่า เมื่อก่อนนี้ห้อยพระหลายองค์ โดยเฉพาะช่วงหนุ่มที่ต้องไปออกรบ แต่ตอนนี้ห้อยพวงเล็กแล้ว ยอมรับบางครั้งใส่หลายองค์ก็ไม่กล้าถอดเหมือนสมัยออกรบ พระต้องเต็มคอ จะให้ถอดองค์ไหนก็ไม่กล้าถอด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า หลังจากที่นวดไทยได้รับการขึ้นลงทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว แล้วยังมีการต่อขยายเป็นอุตสาหกรรม ซึ่งของเรานั้น จะเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ขอให้ระมัดระวัง เพราะบางครั้งการแข่งขันที่มีจำนวนมาก มีการเปิดให้บริการร้านนวดในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ การแต่งกายบางทีไม่ได้สวยงามตามวัฒนธรรมไทย มีการแต่งตัวอีกแบบหนึ่ง ซึ่งส่อเจตนาทำให้เสียชื่อเสียงก็อยากจะขอร้องกันหน่อย แต่จะไปบังคับมากก็ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในการคงไว้ซึ่งมีมรดกโลกของนวดไทยนั้น จะต้องมีการรับช่วงต่อและการควบคุมมาตรฐาน ซึ่งทางกรมแพทย์แผนไทยฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย รวมทั้งภาคเอกชนต้องร่วมมือกัน จะให้รัฐบาลทำฝ่ายเดียวก็ไม่ไหว

ขณะที่นายอิทธิพลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไทยได้เสนอและได้รับการรับรองจากยูเนสโกในเรื่องของโขน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ปี และวันนี้ก็ได้รับเรื่องนวดไทย และอนาคตก็จะเป็นเรื่องของต้มยำกุ้ง

จากนั้น นายกฯได้ถามหมอนวดว่า นวดให้รองนายกฯ อนุทิน แล้วหรือไม่ โดยนายอนุทินที่ยืนอยู่บริเวณนั้นกล่าวขึ้นทันทีอย่างอารมณ์ดีว่า ของผมต้องนวดหน้าด้วยฝ่าเท้า ทำเอานายกฯ นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวว่า การนวดก็มีหลายแบบ นวดฝ่าเท้า หรือสปาปลา

ทั้งนี้ ก่อนขึ้นประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่าได้อ่านข้อความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถูกกลั่นแกล้งด้วยมาตรา 44 หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ไม่ได้อ่าน ไม่ใช่เรื่องของผม” ก่อนเดินขึ้นไปยังห้องประชุมทันที