‘อนาคตใหม่’ ยื่น ‘กมธ.ป.ป.ช.’ สอบ ‘ชวน’ วางตัวไม่เป็นกลาง

“อนาคตใหม่” ยื่น “กมธ.ป.ป.ช.” สอบ “ชวน” วางตัวไม่เป็นกลาง ตีความข้อบังคับ 85 สั่งให้นับคะแนนใหม่ ปมตั้งกมธ.ศึกษาผลจากการใช้ม.44

วันที่ 4 ธ.ค. 62 ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการุทจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร ยืนหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ. เพื่อให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ว่า ปฏิบัติหน้าที่เป็นกลางตามข้อบังคับการประชุมสภา พ.ศ.2562 และรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า การยื่นเรื่องครั้งนี้ต้องการให้ตรวจสอบ 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การตีความข้อบังคับข้อที่ 83 และ 85 ว่าด้วยการลงคะแนนและการนับคะแนนใหม่ เนื่องจากประธานสภาสั่งให้นับคะแนนใหม่ตามข้อ 85 คือการให้ลงคะแนนใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ซึ่งคิดว่าเป็นการตีความที่ผิด เพราะการที่ข้อ 85 กำหนดให้นับใหม่นั้นหมายถึงการให้นับคะแนนใหม่ในส่วนที่ได้ลงคะแนนไปแล้ว ซึ่งต่างจากคำว่าลงคะแนนใหม่ ที่ต้องมีการลงคะแนนใหม่ทั้งหมด 2.การตีความของนายชวนที่ให้มีการลงคะแนนใหม่แต่ต้นนั้นจะทำให้เกิดความไม่เป็นกลางตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ เนื่องจากในญัตติดังกล่าวฝ่ายค้านได้ชนะโหวตไปแล้ว หากตีความเช่นนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นความพยายามต้องการให้รัฐบาลเป็นฝ่ายชนะ โดยสามารถระดมคนเข้าไปโหวตใหม่ได้ 3.อยากให้คณะกมธ.ศึกษาว่าการตีความเช่นนั้นจะกระทบกับการทำงานของสภาอย่างไร เพราะในอนาคตอาจขอให้มีการนับคะแนนใหม่แบบไม่มีที่สิ้นสุด เพราะหากฝ่ายค้านเกิดแพ้ก็จะนำมาซึ่งการนับคะแนนใหม่เช่นกัน จนสภาเดินหน้าไม่ได้ และ 4.ควรมีกลไกเพื่อควบคุมประธานสภาให้ทำหน้าที่เป็นกลาง โดยต้องการให้กมธ.เชิญอดีตประธานสภา เช่น นายอุทัย พิมพ์ใจชน นายโภคิน พลกุล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นต้น ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เมื่อมีการยื่นเรื่องเข้ามา คณะกมธ.จำเป็นต้องศึกษาว่าสิ่งต่างๆ ที่ดำเนินการไปนั้น ประธานสภาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่าการนับคะแนนใหม่เพื่อให้รัฐบาลเป็นฝ่ายชนะญัตติให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องตั้งคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 และเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเผด็จการ “วันนี้มีการระดมพลกันจำนวนมาก ใครที่ป่วยก็ต้องให้ออกจากโรงพยาบาล ขนาด ส.ส.ที่ถูกหมายจับของศาลยังต้องหนีออกมาลงคะแนน ดังนั้น ถ้าใครพบ ส.ส.คนนี้ก็จับได้เลย ไม่ให้เข้าสภา ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเอกสิทธิ์ของประธานสภา หากในอนาคตรัฐบาลชนะโหวต ฝ่ายค้านก็จะประท้วงอีกซึ่งจะทำให้ไม่ได้ทำงาน คำสั่งมาตรา 44 นั้นทุกคนทราบว่าใครเป็นคนออก และเป็นคำสั่งที่ถูกใช้ไปกดหัวประชาชน เราต้องช่วยกันเพื่อประชาชนอยากให้ทุกคนทราบว่าในสภามีการเอื้ออำนวยให้เผด็จการอยู่ต่อไป” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว เมื่อถามว่า หากวันนี้รัฐบาลชนะโหวตแล้วไม่มีการตั้งกมธ. ฝ่ายค้านจะยอมรับมติของสภาหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ต้องนำคะแนนไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นการลงคะแนนชอบหรือไม่