รองโฆษกพลังประชารัฐ จี้ ‘ปิยบุตร’ หยุดวาทกรรม ‘ลอว์แฟร์’ ทำลายความเชื่อถือศาล

รองโฆษกพลังประชารัฐ จี้ ‘ปิยบุตร’ หยุดวาทกรรม ‘ลอว์แฟร์’ ทำลายความเชื่อถือศาล

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณียูทูบของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เผยแพร่วิดีโอที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บรรยายกลไกการทำงานเกี่ยวกับลอว์แฟร์ หรือ Lawfare หรือการใช้กระบวนการทางยุติธรรมเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมือง และกล่าวหาว่าผู้พิพากษาที่อยู่ในบัลลังก์ตัดสินคดีล้วนมีจิตสำนึกที่เป็นตัวของตัวเอง มีความคิดความเชื่อ อุดมการณ์ส่วนบุคคลนั้น ระบุว่า อยากถามนายปิยบุตรว่าเหตุใดจึงกล่าวหาผู้พิพากษาและกระบวนการยุติธรรมเช่นนั้น นักกฎหมายต่างๆ รวมถึงผู้พิพากษาต้องมีจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพอยู่แล้ว ซึ่งองค์ความรู้ของวิชา LA461 หลักวิชาชีพของนักกฎหมายที่นายปิยบุตรได้เคยเรียนมาแล้วในระดับปริญญาตรีเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ก็เคยสอนไว้ชัดเจนว่า

“ในการทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ผู้พิพากษาจะต้องละความเป็นปุถุชนของตนเอง ทำหน้าที่โดยปราศจากอคติทั้ง 4 พิจารณาคดีเพื่อดำรงความยุติธรรม”

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า หากนายปิยบุตรจำความรู้ของวิชาหลักวิชาชีพนักกฎหมายได้ ย่อมรู้แก่ใจว่าการกล่าวหาดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ จึงขอให้หยุดประดิษฐ์วาทกรรมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเองและพรรคพวกในฐานะนักการเมือง หยุดสร้างกระแสชี้นำสังคมเพื่อมุ่งหวัง “บั่นทอนความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม”

“การประดิษฐ์คำและแปลความของคำว่า Lawfare ของนายปิยบุตรว่ามาจากคำว่า  Warfare และ Law มารวมกันเป็น ‘Lawfare’ หมายถึง ‘นิติสงคราม’ น่าจะผิดพลาด เพราะคำว่า ‘Fare’ ไม่ได้แปลว่าสงครามแต่อย่างใด และรัฐบาลไม่เคยใช้กฎหมายกลั่นแกล้งใคร อำนาจตุลาการเป็นอำนาจอิสระ”

น.ส.ทิพานันกล่าวและว่า ปัจจุบันสิ่งที่เรากำลังทำคือการยกระดับสวัสดิการ หรือ “Welfare” ของประชาชน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่ควรทำในฐานะนักการเมือง ผู้แทนของประชาชน