เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมกมธ.ฯว่า เป็นผู้เสนอให้กมธ.ฯตรวจสอบการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ว่า เสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาโดยไม่ชอบ ซึ่งเริ่มจากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวคำถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ซึ่งตนเคยอภิปรายในที่ประชุมสภาฯ โดยระบุว่า เป็นพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งที่ประชุมกมธ.มีมติรับเรื่องไว้ตรวจสอบ จะส่งหนังสือเรียกให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เข้าชี้แจงต่อกมธ.วันที่ 30 ตุลาคม เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่การเล่นการเมือง หรือการใช้อำนาจกมธ.แทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร เนื่องจากกรณีดังกล่าวต้องถูกตรวจสอบ เพราะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

“ขนาดกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ยังถูกตรวจสอบว่า จะดำรงตำแหน่ง กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ได้หรือไม่ ดังนั้น กรณีของนายกฯ จึงเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ผมไม่ได้เล่นการเมือง ตอนนี้ไม่มีจิตใจเป็นฝ่ายการเมือง พร้อมทำหน้าที่ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะยื่นเรื่อง ที่มองว่ าผมทำเรื่องนี้เพราะเป็นคู่ขัดแย้งกับนายกฯ ผมยืนยันทำหน้าที่ตรงไปตรงมา เพราะพล.อ.ประยุทธ์คือรุ่นน้องผม ส่วน พล.อ.ประวิตร คือรุ่นพี่ผม ทั้งนี้ผมต้องการให้นายกฯ และพล.อ.ประวิตรมาชี้แจงเอง เพราะผมจะไม่รับตัวแทนใดๆ มาชี้แจงแทน และหากตัวท่านไม่มาเอง จนเกินกรอบเวลาที่กฎหมายเรียกกำหนด ผมพร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนกรณีที่เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณศาลธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วนั้น เป็นเฉพาะเรื่องไม่รับคำร้อง ไม่ใช่การวินิจฉัยว่าถวายสัตย์ปฏิญาณครบหรือไม่ครบ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว