จากกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวาระที่ 1 ชั้นรับหลักการ โดยมีเห็นด้วย 251 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 234 และไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 486 เสียง โดยมติ 7 พรรคฝ่ายค้าน ให้งดออกเสียง ต่อมาพบว่า น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ ลงมติเห็นด้วยกับรัฐบาล ทำให้บรรดาผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง

ต่อมา นายเทพพิทักษ์ มะลาศรี หัวหน้าคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดชลบุรี โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรียกร้องให้ น.ส.กวินนาถ ลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า น.ส.กวินนาถ ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กวินนาถ ปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว หลังจากมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในหน้าเฟซบุ๊กของตนเองจำนวนมาก ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อ น.ส.กวินนาถ  ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

สำหรับ น.ส.กวินนาถ ปัจจุบันอายุ 28 ปี จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ก่อนหน้ารับตำแหน่ง ส.ส. เป็นทนายความมาก่อน เริ่มจากปี 2558 เป็นเสมียนทนาย บริษัท เอส.เอส.อินเตอร์ลอว์ จำกัด ปี 2559 เป็นทนายความของบริษัทเดียวกัน  ขณะที่ปี 2560 เป็นทนายความบริษัท ลีกัล สเตทแอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด ส่วนปี 2561-2562 เป็นทนายความบริษัท จาสติก้า ลอว์ แอนด์ บิสซิเนส จำกัด ก่อนจะมาสมัครลงเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดชลบุรี และได้รับการเลือกตั้ง

ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินกับ ป.ป.ช. ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. น.ส.กวินนาถ ดำรงตำแหน่งเป็น ทนายความ และกรรมการบริษัท จาสติก้า ลอว์ แอนด์ บิสซิเนส จำกัด มีรายได้จากการเป็นทนายความ 360,000 บาทต่อปี แจ้งว่ามีเงินลงทุน 1,450,000 บาท ในสวนอาหารบ้านตาคีย์ และหุ้นบริษัท โดยมีหมายเหตุว่า ปัจจุบันทั้งสองกิจการต่างปิดกิจการไปกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนหนี้สิน ทั้งเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้ธนาคาร หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ รวมแล้ว 435,519 บาท

สำหรับหนี้เบิกเกินบัญชี คือหนี้บัตรกรุงไทยรายการที่ 1  52,550 บาท รายการที่ 2 48,087 บาท และกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์  60,000 บาท และยังมีหนี้จากการกู้ยืม กยศ. ทำสัญญาปี 2553 รวมกว่า 262,881 บาท รวมถึงหนี้กู้ยืมจากกองทุนหมู่บ้าน 30,000 บาท ทำสัญญาเดือนพฤศจิกายน ปี 2561