‘ทวี’ จวกกฎหมายอีอีซี ชาวบ้านถูกจับไล่ที่ ให้ต่างชาติเช่า 99 ปี แนะยึดที่ทหารคืนปชช.

‘ทวี’ จวกกฎหมายอีอีซี ชาวบ้านถูกจับไล่ที่ ให้ต่างชาติเช่า 99 ปี แนะยึดที่ทหารคืนปชช.
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังร่วมกิจกรรมพบปะประชาชนและเวทีสัญจรของ 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ครั้งที่ 3 ที่ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2562 โดยระบุว่า ทางคณะได้ตรวจสอบดูพื้นที่จริง และเปิดเวทีภาคประชาชนในพื้นที่ซึ่งรัฐมีความขัดแย้งกับชุมชน จุดพื้นที่ อ.บางละมุง และพื้นที่ อ.แหลมฉบัง
จากนั้นได้เปิดเวทีเสวนาภาพรวมกับตัวแทนประชาชนเขตอีอีซี ณ ห้างโรบินสัน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในประเด็นหัวข้อ “หลากมุมมองโครงการ อีอีซี สู่การมีชีวิต กฎหมาย และรัฐธรรมนูญที่ดี” โดย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า “เมื่อความอยุติธรรมกลายเป็นกฎหมาย” ทางแก้หนึ่งคือต้องสร้างประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญโดยประชาชนขึ้น ในส่วนของ โครงการอีอีซี จำเป็นต้องแก้ไขและปฏิรูป พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี โดยเร่งด่วน
พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวบนเวทีเสวนาว่า จากการศึกษากฎหมายอีอีซี เราได้นิยามคำว่า อาชญากร หรือผู้กระทำผิด หรือโจร ไม่ได้หมายถึงผู้กระทำผิดกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึง ผู้บงการร่างกฎหมาย ผู้ร่างกฎหมาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย และคนในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด เพราะกฎหมายถูกออกมาเพื่อทำให้คนกลุ่มหนึ่งมีความสุข แต่ทำให้คนสวนใหญ่ของประเทศมีความทุกข์ ทำให้ทรัพย์สินของแผ่นดินไปอยู่กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ปล่อยให้คนอีกกลุ่มถูกละเมิดสิทธิ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก

“ประเทศไทยเรามีปัญหาเรื่องการปฏิรูปที่ดิน ยิ่งปฏิรูป ป่ายิ่งหมด นายทุนยิ่งมีที่ดินเพิ่ม เพราะไม่เคยเขียนกฎหมายกำหนดเพดานคนถือครองที่ดิน มีเงินเท่าไหร่ ก็เอาที่ดินเป็นสินทรัพย์ ไปกว้านซื้อที่ดินมาเก็งกำไร แล้วเอาเข้าธนาคาร แต่สำหรับเกษตรกรมีที่ดินเป็นปัจจัยการผลิต ต้องเสียพลังงาน ต้องขยัน ถึงจะได้เงิน ดังนั้น คำว่าอาชญากรรือผู้กระทำผิด ไม่ได้หมายถึงพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ แล้ววันดีคืนดี กฎหมายบอกว่าคุณผิด ไปรุกป่า รุกที่สาธารณะ ถูกจับติดคุก แต่อาชญากรต้องหมายความรวมถึงผู้ออกกฎหมาย โดยเฉพาะ คสช. อันนี้ก็เป็นอาชญากรชนิดหนึ่ง”พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีคนที่ได้ประโยชน์จากอีอีซี คือ คนที่เป็นเจ้าของที่ดิน หรือ นายทุน และคนที่จะได้ประโยชน์อีกกลุ่ม คือ รัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ ส.ป.ก. ใน 2 จังหวัด มีจำนวน 1.6 ล้านไร่ เป็น ส.ป.ก. เพราะมีอีอีซี ซึ่งสามารถเอาที่ ส.ป.ก ไปให้ต่างชาติเช่าได้ วันนี้เป็นการยึดประเทศไทย เสียดินแดนเป็นวิธีพิเศษ

“ที่สำคัญ คือที่ราชพัสดุ มีถึง 11 ล้านไร่ ในจำนวนนั้นมี 5-6 ล้านไร่ เป็นที่ของทหาร ที่สวนผึ้งที่เดียว เป็นที่ทหารแสนไร่ อย่างที่แสมสารก็เป็นที่ราชพัสดุ คุณมีสิทธิ์อะไรเอามาเป็นที่ทหาร ถ้าวันนี้พ่อแม่พี่น้อง ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ถ้าเราไม่กระจายอำนาจ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดว่า ไม่ใช่สาธารณะสมบัติของรัฐ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นสาธารณะสมบัติของประชาชน ต่อไปต้องกระจายอำนาจไปให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้อนุมัติ ไม่ใช่ให้อยู่กับส่วนกลาง”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตัวอย่าง ที่ราชพัสดุ ให้ประชาชนเช่า 3 ปี แต่พอเป็นอีอีซี ต้องไล่ทุกคนออก เพื่อที่จะเอาที่ไปให้ต่างชาติเช่า คนไทยเช่าได้ 3 ปี แและต้องต่อทุกปี แต่ให้ต่างชาติเช่าได้ 50 ปี ต่ออีก 49 ปี เป็น 99 ปี กฎหมายลักษณะนี้ เป็นกฎหมายที่เป็นอาชญากร เราแก้กฎหมาย ไม่ต้องใช้เงิน และไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะเมื่อออกกฎหมายมา มันบังคับทั้งรุ่นพ่อ รุ่นลูกเรา โดยพรรคอนาคตใหม่ บอกกจะปฏิรูปทหาร ไม่ต้องทำเยอะ ทหารมีที่ไว้ฝึกพอ ที่เหลืออีกหลายล้านไร่ เอาคืนให้ประชาชนจัดการ ซึ่งวันนี้เขตพัฒนาพิเศษ ไม่มีเขต มันจะไปจิ้มตรงไหนก็ได้ เพราะใช้กฎหมายตามอำเภอใจ เอากฎหมายทั้งหมดมาอยู่ในอุ้งมือคนกลุ่มหนึ่ง

“อย่างนายทุน มีที่ 4 หมื่นไร่ เดิมที่มีราคาประมาณ 4 หมื่น ถึง 5 แสนบาท แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 10-15 ล้าน ทำให้นายทุนกลุ่มหนึ่งรวยทันที 4 แสนล้านบาท เพียงแต่ใช้กฎหมายประกาศเป็นพื้นที่สีส้มก็ได้เงินแบบง่ายๆ อันนี้คือการทุจริตเชิงนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษต้องแก้ไข คือทำอย่างไรให้คนในพื้นที่ได้มีส่วนในการร่างกฎหมาย ทำอย่างไรให้เกษตรกรที่อยูในพื้นที่ ต้องไม่พรากจากที่อยู่”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ถ้าเราคิดว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องไกลตัว มันก็ไกลตัว แต่วันนี้รัฐธรรมนูญ คือมรดกที่จะต้องสืบทอดอำนาจ โดยเฉพาะบทเฉพาะกาลทั้งหมดเป็นการสร้างเพื่อจะสืบทอดอำนาจ ถ้าเราจะแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าเราจะมีบทเฉพาะกาล สัก 5 ปี ทำอย่างไรจะเอาที่ดินทั้งประเทศให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกิน ได้มีที่ทำกิน

“ผมไปสำรวจมาแล้ว พบที่ดินเหลือเฟือมากสำหรับคนที่เป็นเกษตรกร ทำยังไงจะเอาหนี้สินของประชาให้หมดไป แทนที่จะเป็นบทเฉพาะกาลที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจ แต่ควรจะทำให้เป็นบทเฉพาะกาลให้ประชาชนสารมารถเลิกจากการเป็นทาสต่างๆ ได้ โดยทุกหมู่เหล่า ทุกชาติพันธุ์ ทุกศาสนิก ต้องได้ร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญ และแก้รัฐธรรมนูญ เราต้องเริ่มรณรงค์ทำให้เป็นมติมหาชน เพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน” เลขาธิการพรรคประชาชาติ ทิ้งท้าย