“ธนาธร” ตั้งกระทู้นอกสภา จี้ “สุริยะ” แก้ปัญหาแปรรูปยาง

วันที่ 22 สิงหาคม 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหายางพาราที่ตกต่ำ พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาความว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสเยี่ยมชมสหกรณ์กองทุนสวนยางโสตประชา ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และสหกรณ์แพรกหา ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทั้งสองสหกรณ์เป็นสหกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณกลุ่มจังหวัด ในรูปแบบการลงทุนเป็นเครื่องจักรแปรรูปยางพาราจากรัฐบาล

โสตประชาได้รับเครื่องจักรที่ผลิตจากไต้หวันและจีน เพื่อแปรรูปยางสดเป็นยางปูพื้นอเนกประสงค์ เป็นวงเงิน 21 ล้านบาท ขณะที่แพรกหาได้รับเครื่องจักรที่ผลิตจากเยอรมนีเพื่อแปรรูปหมอนยางจากยางพารา เป็นจำนวนเงินประมาณ 30 ล้านบาท

ทั้งสองสหกรณ์กู้เงินลงทุนอีกหลักสิบล้านเพื่อลงทุนให้ครบ ซื้อที่ดิน, สร้างโรงงาน, อุปกรณ์ทดสอบ และใช้เป็นเงินหมุนรอบวัตถุดิบ กรรมการสหกรณ์ และคนในชุมชนตื่นเต้นเต็มไปด้วยความหวังว่าชีวิตของเขาจะดีขึ้นจากโครงการดังกล่าวเมื่อสามปีที่แล้ว

ในชุมชนที่ไม่เคยจัดการโรงงานอุตสาหกรรมสมัยใหม่เลย การยกเครื่องจักรให้แล้วคาดหวังว่าเครื่องจักรเหล่านั้นจะออกดอกออกผลด้วยตัวเองไม่เป็นจริง สหกรณ์ทั้งสองยังการขาดสนับสนุนเรื่องการจัดการโรงงาน, การตลาด และการประสานงานกับหน่วยงานของภาครัฐอีกมาก

ที่โสตประชา ผลิตภัณฑ์ยังไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. เมื่อยังไม่ผ่าน จึงไม่สามารถประมูลงานจากภาครัฐได้ เครื่องจักรและเงินลงทุนที่ใช้มา ปัจจุบันจึงไม่เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเลย กรรมการสหกรณ์เริ่มท้อใจหลังจากพยายามมาหลายปี หนี้สินที่กู้ยืมมาเริ่มถึงงวดชำระ หากสหกรณ์ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ในเร็ววัน อาจจะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

ความหวังกลายเป็นความทุกข์ เครื่องจักรที่ควรจะนำมาซึ่งงานและมูลค่าเพิ่มกลายเป็นตัวถ่วง การขาดทุนของฝ่ายโรงงานพื้นยาง ดึงกินกำไรจากกิจการอื่นของสหกรณ์ไปหมด (เช่น กิจการร้านค้า, ค้าขายเครื่องมือสินค้าการเกษตร, และการรวมปาล์ม, ยาง เพื่อขายรวมกลุ่ม) ทำให้ภาพรวมสหกรณ์ขาดทุนหลายล้านบาทต่อปี

ข้อเสนอก้าวต่อไปของโสตประชาคือ ภาครัฐต้องปรับงบดุล ยืดหรือลดการเงินต้นออกไป สนับสนุนงบประมาณก้อนใหม่เพื่อเปิดแม่พิมพ์สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้าเป็นของตัวเอง ยืดช่องค่ามาตรฐานอุตสาหกรรมให้กว้างขึ้น และประกันคำสั่งซื้อจากหน่วยงานภาครัฐในช่วงสามปีแรกเพื่อให้องค์กรเดินไปได้

ระยะกลางต้องลงทุนสร้างเว็บไซต์และเริ่มจัดจำหน่ายด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งคำสั่งซื้อจากหน่วยงานภาครัฐ และไม่ต้องมีหน้าร้านที่เป็นต้นทุนคงที่, ลงทุนในการสร้างทีมการตลาด และทีมบริหารที่เป็นมืออาชีพ ส่วนระยะยาว ผลักดันให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น, หลากหลายขึ้น และใช้เทคโนโลยีมากขึ้น