เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมารายงานว่า แหล่งข่าว พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า พรรคกำลังพิจารณาส่ง ดร.สาธิต ปิติวรา ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ลำดับที่ 59 ชาวอำเภอปากช่อง ที่เสนอตัวลงสมัคร พร้อมจัดเตรียมทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.จ.ทั้ง 48 คนไว้พร้อมแล้ว โดยจะมีการเปิดแถลงข่าวที่สำนักงานพรรค สาขานครราชสีมา วันที่ 27 กรกฎาคม

ด้าน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ และ พล.อ.สนธยา ศรีเจริญ สมาชิกวุฒิสภา แกนนำของพรรคใน จ.นครราชสีมา จับมือกับ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เตรียมส่งนายสมศักดิ์ กาญจนาวัฒนา หรือกำนันเบ้า อดีตกำนันตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา ลงสมัครโดยมี ส.จ.หลายอำเภอ และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านของ จ.นครราชสีมา เป็นฐานเสียงหลัก ด้าน พรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมช.คมนาคม แกนนำพรรคได้วางตัวนายกิตติพงศ์ พงศ์สุรเวท อดีตประธานสภา อบจ.นครราชสีมา และอดีต ส.จ.เขต อ.เมืองนครราชสีมา ลงสมัคร นอกจากนี้ยังมี ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.เมืองย่าโม คนปัจจุบัน และนายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ก็ประกาศลงสมัครชิงเก้าอี้นามอิสระทั้งสองคน

ส่วน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เดิม นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค รับปากกับ “หมอแหยง” นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา และอดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. โดยหมอแหยงเคยมี อสม. จำนวน 35,000 คน ใน จ.นครราชสีมา เป็นฐานเสียงหลัก แต่หลังมีการจัดตั้งรัฐบาล “กำนันป้อ” นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา และแกนนำของพรรคภูมิใจไทยของ จ.นครราชสีมา ก็ตัดสินใจส่งน้องชาย “นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” อดีต ส.ว.นครราชสีมา ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา แทน “หมอแหยง” ซึ่งก่อนหน้านั้นตระกูล “หวังศุภกิจโกศล” เคยมีบทบาทการเมืองในโคราช โดย “จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล” เจ้าของโรงงานแป้งมันเอี่ยมบูรพา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เป็น ส.ส.นครราชสีมา 2 สมัย และ “สมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” ก็เคยเป็น ส.ว.นครราชสีมา

ล่าสุด มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยได้เตรียมตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปลอบใจหมอแหยง เพื่อแลกกับการไม่ลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.นครราชสีมา เพื่อหลีกทางให้นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ลงสมัครแทน

นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคอีสานและที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า อบจ.นครราชสีมา เป็นที่หมายปองของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองท้องถิ่นหลายพรรคหลายกลุ่ม เพราะเป็น อบจ.ขนาดใหญ่ มีงบประมาณบริหารเกือบ 4,000 ล้านบาท สามารถทำงานได้หลายอย่าง อาทิ โรงเรียน, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ของ จ.นครราชสีมา กว่า 35,000 คน จะต้องมารับเงินค่าตอบแทนผ่าน อบจ. ดังนั้น ถ้าคนของพรรคการเมืองตนเองได้เข้าไปบริหาร อบจ.ก็มีโอกาสสูงในการคุมพื้นที่ในการเลือกตั้ง ส.ส.ในอนาคต

นายทวิสันต์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีข่าวที่หลายพรรคการเมืองประกาศรายชื่อผู้สมัครชิงนายก อบจ.นครราชสีมา ไปแล้ว โดยกลุ่มบุคคลที่ได้รับความสนใจจากพรรคการเมืองเตรียมส่งลงสมัครคือกลุ่ม ส.จ.และกำนัน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้นำ อปท.ทั่วทั้งจังหวัด ตนเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา ที่กำลังจะมีขึ้นในปลายปีนี้ จะมีการใช้เงินค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินในการหาเสียงแบบครบวงจร ทั้งป้ายหาเสียง สื่อต่างๆ การจ้างทีมงาน ฯลฯ ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทขึ้นไป และจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการซื้อเสียงจะเป็นจุดเริ่มต้นแรกของการทุจริต

“สนามเลือกตั้งเมืองโคราชมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 32 อำเภอ บุคคลที่จะมาลงสมัครและคาดหวังว่าจะได้รับเลือกตั้งต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 500,000 คะแนนขึ้นไป และจะต้องมีกระเป๋าใหญ่มาเป็นผู้สนับสนุน การซื้อเสียงในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันไป บางคนอาจะซื้อแค่ 30-50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ และพื้นที่ในเปราะบางก็จะมีราคาแพง ตั้งแต่ 500-3,000 บาท” นายทวิสันต์กล่าว