“จุรินทร์”มอบ 3 ว่าที่รมต.ร่วมร่างนโยบายรัฐบาล

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่โรงแรมแกรนด์ ไชน่า ย่านเยาวราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจากต้องผลักดันนโยบายประกันรายได้เกษตรกร เพื่อยกระดับราคาพืชผลการเกษตร ตามที่ได้ประกาศนโยบายหาเสียงไว้กับประชาชนนั้น จึงได้เตรียมส่ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่ รมว.เกษตรฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ว่าที่ รมช.มหาดไทย และนายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพรรค ว่าที่ รมว.การพัฒนาสังคมฯ เป็นตัวแทนเข้าร่วมร่างนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่ได้เสนอแนวทางไว้

ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมเศรษฐกิจทันสมัย กล่าวต่อว่า ปัญหาปัจจุบันเกิดภาวะ รวยกระจุก จนกระจายสภาพการลงทุนคนกลัวมากกว่าความกล้า มูลค่าการลงทุนสูงแต่มาจากหุ่นยนต์ แนวทางการแก้ปัญหา ต้องแก้ทั้งระดับมหภาค และจุลภาค เศรษฐกิจทันสมัยคือโลกดิจิตัล คนชนะคือคนที่มีข้อมูลหรือดาต้าและที่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ แนวคิดของเศรษฐกิจทันสมัย จะต้องไม่สร้างความเหลื่อมล้ำ เทคโนโลยีต้องมาช่วยลดความเหลื่อมล้ำ

  

ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ประสบปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน “ยิ่งเล็กยิ่งจ่ายแพง” จึงจำเป็นต้องใช้ดิจิตัลมาลดความเหลื่อมล้ำด้วยระบบบล็อคเชน ( Blockchain) เทรนด์การปล่อยเงินกู้ในปัจจุบัน จะเปลี่ยนไปจากเดิม สามารถตรวจสอบคะแนนเครดิต ได้จากความไว้วางใจ ที่สามารถปรากฏให้เห็นบนพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาจากวงเงินค้ำประกัน

ดังนั้น การปลดล็อคความเหลื่อมล้ำ ต้องแก้สามอย่าง หนึ่ง ก แก้กฏหมาย – สอง ข แข่งขัน ต้องมีการแข่งขันที่เป็นธรรมบน เช่นการเก็บภาษีที่เป็นธรรม สาม ค ความคิด ต้องมีการเปลี่ยนวิธีคิดให้ทันสมัย ที่ต้องทันเทคโนโลยี การดูตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจ ต้องเปลี่ยนจากจีดีพี ที่เน้นแค่กำไรสุทธิ แต่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน ต้องใส่ใจถึงผลกระทบต่อสังคมและส่วนรวม โดยต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้เมื่อเวลา  18.00 น. นายจุรินทร์ ได้พบกับ นักธุรกิจไทยจีน นำโดยสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า  อดีตนายกสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน เป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่สุดคนหนึ่งในชีวิต และเป็นคณะแรกในพื้นที่กรุงเทพฯที่ตนได้มีโอกาสมาพบป ตนในฐานะที่เป็นส.ส.มาตั้งแต่ปี 2529 และการได้รับโอกาสเป็นรัฐมนตรีมาแต่ละยุครวมทั้งเคยเป็นรัฐมนตรีสมัยนายกฯ ชวน หลีกภัย ซึ่งผ่านการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และอยู่รอดมาจนครบเทอมขาดแค่สัปดาห์เดียวเพราะนายกชวนไปรับปากไว้จะไม่อยู่ครบเทอม

การร่วมรัฐบาลครั้งนี้เป็นมติแบบประชาธิปไตยจากการลงมติพรรคโดยเสียงข้างมากของที่ประชุมร่วมส.ส.กับกรรมการบริหารพรรคโหวตให้ร่วมรัฐบาล และครั้งนี้ต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาระบบเศรษฐกิจฐานรากเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน จึงเลือกกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้เพื่อเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจปากท้องของของเกษตรกร-รากหญ้า ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ นอกจากนั้นก็ยังมีเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นอุดมการณ์สำคัญของพรรค

มติชนออนไลน์