“ช่อ” แถลงเปิดตัวตั้งคณะทำงานประสานสิทธิมนุษยชน พร้อมจี้ทุกกรณีที่นักเคลื่อนไหวถูกทำร้าย

 “ช่อ” แถลงเปิดตัวตั้งคณะทำงานประสานสิทธิมนุษยชน พร้อมจี้ทุกกรณีที่นักเคลื่อนไหวถูกทำร้าย เปิดช่องทางขอ ปชช. ที่มีหลักฐานตอน ”จ่านิว” ถูกรุม ส่งมาที่พรรค ไม่หวั่นปม 21 ส.ส.ถูกร้องหุ้นสื่อ หากกระบวนการยุติธรรมเถรตรง เชื่อไม่มีปัญหา

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนค. แถลงว่า กรณีที่มีการทำร้ายนักเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นเป็นที่จับตามองของคนไทย สื่อมวลชนต่างประเทศ และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศจำนวนมาก แม้ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาจะถูกเรียกว่าเป็นการเลือกตั้งที่มีประชาธิปไตยครึ่งใบ ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากต่างชาติมาตลอด 5 ปี แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ต่างชาติก็ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจากพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลต่างชาติและองค์กรระดับโลกไม่ให้การยอมรับ

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนที่คิดว่ากรณีดังการทำร้ายนายสิรวิชญ์นั้น เป็นการสร้างภาพหรือไม่ อยากให้ย้อนกลับไปดูภาพกว้าง จ่านิวไม่ใช่คนแรก ที่ถูกทำแบบนี้ และที่น่าเสียใจไปกว่านั้นคือไม่ใช่คนสุดท้ายที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้าย โดยไม่มีใครรับผิดชอบหรือหาคนผิดมาลงพูด จากข้อมูลของ ไอลอว์ 18 เดือนก่อนการเลือกตั้ง สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ มีการทำร้ายนักเคลื่อนอย่างน้อย 15 ครั้ง ที่โดนมากที่สุดคือ นายเอกชัย หงษ์กังวาน รองลงมาคือ นายสิรวิชญ์ ที่โดนมาแล้ว 2 ครั้ง หากย้อนไปไกลกว่านั้น เจ้าตัวเคยถูกชายแต่งกายคล้ายทหาร อุ้มไปจาก หน้าประตูเชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โชคดีที่กล้องไม่พัง ก่อนที่จ่านิวจะได้รับการปล่อยตัวออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำๆ

“หากย้อนไปดูจะเห็นพฤติการณ์ของมืออาชีพ และเลือกด้วยว่าจะทำกับใคร การที่ทั้ง 2 คนตกเป็นเหยื่อของการถูกทำร้ายบ่อยที่สุด เป็นนักกิจกรรมที่อาจถูกทำลายความน่าเชื่อถือทางสังคมได้ง่าย เนื่องจากพวกเขาไมได้มีต้นทุนทางสังคม ไม่ได้เป็นคนร่ำรวยมีฐานะ หรือมีลักษณะเป็นปัญญาชน ชนชนกลาง หรือชนชั้นกลางระดับสูงหรือเป็นนักวิชาการ ทำให้นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของการถูกทำร้ายโดยที่ยังไม่มีใครต้องรับผิด” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า พรรคอนค. ต้องการหยุดพฤติกรรมคุกคามนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ทางพรรคมีแคมเปญที่จะให้คนธรรมดา ร่วมกันส่งคลิป พยานแวดล้อมต่างๆ มา เพราะเวลาที่เกิดเหตุ เป็นเวลาที่ประชาชนทั่วไปก็เห็นเหตุการณ์ หากท่านประชาชนท่านใดมีข้อมูล จากกล้องมือถือ หรือกล้องหน้ารถ ขอให้ส่งมาที่พรรคอนาคตใหม่ เหตุใดต้องส่งมาให้เราเพราะ บางคนอาจไม่กล้า หรือกลัวการถูกคุกคาม หรือไม่มีเวลามากพอ พรรคอนาคตใหม่จึงขอเป็นสื่อกลางในการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ ขณะที่การทำงานในสภานั้น จะมีการตั้งกระทู้ในสภาภายในสัปดาห์นี้ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญ ทำหน้าที่ตรวจสอบการคุกคามและการละเมิดสิทธินักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนักประชาธิปไตยด้วย โดยพรรคอนาคตใหม่จะตั้งคณะทำงาน ขึ้นมา เรียกว่า คณะทำงานประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งในและนอกสภา ซึ่งกรณีที่จ่านิวถูกร้าย ทำให้เราได้จังหวะที่จะเปิด การทำงานอย่างเป็นทางการ สำหรับคณะทำงานชุดนี้ โดยคณะทำงานประกอบด้วย 1.นายรังสิมันต์ โรม 2.นางสาวพรรณิการ์ วาณิช 3.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 4.นายอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 5.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 6.พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 7.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ซึ่งกรณีจ่านิวจะไม่ใช่กรณีเดียวที่คณะทำงานชุดนี้จะช่วยดูแล แต่จะมีกรณีคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลอื่นๆอีก

เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวเป็นการสะท้อนว่าการทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง ของ คสช.ล้มเหลวหรือไม่ น.ส.พรรริการณ์ กล่าวว่า กรณีนี้อาจเป็นกรณีที่สังคมสนใจมากจึงมีการเด้งรับอย่างรวดเร็ว จากทั้งรัฐบาลและตำรวจ แต่หากดูจากภาพรวมที่นักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรมถูกทำร้าย การดำเนินการที่จะดูแลนักเคลื่อนไหวเหล่านี้ จะช้าเป็นพิเศษ แต่วันนี้มีความแตกต่างสำคัญคือ มีสภาที่จะคอยตรวจสอบแทนประชาชน พรรคอนาคตใหม่จะใช้ช่องทางนี้ในการดำเนินการอย่างเต็มที่

ส่วนกระแสโซเชียลมิเดีย ที่มีคนแสดงความยินดี ที่ จ่านิว ถูกทำร้ายเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมืองนั้น เรากังวลในเรื่องนี้ อยากให้ย้อนกลับไปมองว่า กรณีดังกล่าวคล้ายกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม หรือ การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะมองเขาเป็นแบบไหน แต่ไม่มีเหตุผลใดๆที่เพื่อนร่วมชาติชาวไทยด้วยกันจะยินดีหรือสมน้ำหน้า กับการถูกทำร้ายจนสาหัสของคนคนหนึ่ง ขอให้เห็นอกเห็นใจกันในฐานะเพื่อนมนุษย์

เมื่อถามถึง แนวทางการสู้คดี 21 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ นางสาวพรรณิการกล่าวว่า ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคได้พูดคุยกับส.ส.ที่ตกเป็นประเด็นแล้ว ซึ่งเรามองว่าไม่มีปัญหาอะไรในส่วนของคดีหุ้นเนื่องจากเราทำตามที่กฎหมายรับรองทุกอย่าง เชื่อว่าเรื่องนี้หากกระบวนการยุติธรรมมีความยุติธรรมอย่างแท้จริง เรื่องนี้จะไม่มีผลอะไรต่อการทำงานของผู้แทนของเรา

มติชนออนไลน์