“ธนาธร” โอดไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นยังเป็น ส.ส. ไม่ให้เข้าสภาก็อยู่กับปชช.

วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เมื่อเวลา 19.00 น. นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงภายหลังถูกศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ระบุว่า ตนได้กล่าวมาหลายครั้งเกี่ยวกับการที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. เร่งรัดคดีของตนแบบผิดปกติ

พยานของตนได้รับเอกสารจากกกต. ลงวันที่ 17 พ.ค. ส่งมาวันที่ 21 พ.ค. มาถึงวันที่ 22 พ.ค. มีการเรียกสืบพยานจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพิ่มขึ้น 3 คน หมายถึง คณะกรรมการสืบสวนข้อร้องเรียนจนถึงวันนี้ คณะกรรมการชุดเล็ก ยังแสวงหาข้อเท็จจริงอยู่ เหตุใดคณะกรรมการชุดใหญ่ จึงพิจารณาและส่งข้อร้องเรียนให้ศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 16 พ.ค. ทั้งที่ คณะกรรมการชุดเล็กยังพิจารณาไม่เสร็จ

กรณีที่กกต.เรียก นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของตน เข้าไปสอบสวน เอกสารมาถึง 22 เม.ย.ตอนบ่าย แต่เรียกไปให้ปากคำตอนเช้าวันเดียวกันกับที่ส่งเอกสาร จากนั้น วันที่ 23 เม.ย. กกต. ออกหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาทันที โดยที่ฝั่งตน คือ ผู้ถูกร้องไม่มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กกต.

ลองเปรียบเทียบกับคดีการถือหุ้นของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ใช้เวลา 417 วันจากกต.ถึงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีของตน ใช้เวลา 53 วัน ต่างกัน 364 วัน อยากถามว่าตนได้รับความเป็นธรรมในกรณีนี้หรือไม่ การทำงานของกระบวนการอิสระที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติในประเทศไทยเป็นธรรมหรือไม่ ขอให้ช่วยกันตรวจสอบ มติของกกต.และศาลรัฐธรรมนูญ

ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. แต่พรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้าต่อไปเป็นพรรคการเมืองที่ต่อต้านระบบเผด็จการเพื่อผลักดันให้ธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี ธนาธรยังมีศักดิ์และสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรี

ยืนเงียบๆเงี่ยหูฟังได้ยินเสียงของความไม่พอใจของผู้คนที่อยู่ข้างนอกหรือไม่ คสช.และระบอบเผด็จการอยู่ช่วงขาลง คือ อาทิตย์ที่กำลังอัสดง ไม่ว่าเป็นความพยายามสืบทอดอำนาจ หรือ สกัดตนไม่ให้เข้าสภา นี่คือความสิ้นหวังของเผด็จการ การดิ้นรนครั้งสุดท้ายของการัฐประหาร เพื่อที่จะเสวยสุขบนความทุกข์ของประชาชน

พวกเขาคือความมืด พวกเราคือแสงสว่าง พรรคอนาคตใหม่ขออาสาเป็นผู้เปิดประตูสู่วันพรุ่งนี้ ธนาธรขออาสาเป็นนายกฯเพื่อหยุดยั้งระบอบเผด็จการ

ทุกคนอาจจะสิ้นหวัง เมื่อได้ยินข่าวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตนอยากเรียนว่า เวลานี้ไม่เวลาสิ้นหวังแต่เป็นเวลาเปิดโปงความชั่วร้ายของระบอบเผด็จการ พวกเรายังไม่หมดหวัง

แม้วันนี้จะถูกศาลตัดสินให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส. แต่ตนยังเป็น ส.ส. อยู่ ระหว่างรอการวินิจฉัย ตนจะยังคงทำงานกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในเมื่อพวกเขาไม่ให้ผมเข้าสภา ผมก็จะอยู่กับประชาชนจากที่ได้รับความไว้วางใจ 6 ล้าน 3 แสนเสียงทั่วประเทศ