เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ไทกร พลสุวรรณ” ระบุว่า

เขียนแปะข้างฝาไว้
สุดารัตน์/อภิสิทธิ์ คือนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง
มีเพียงสองท่านจากสองพรรคการเมืองที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง คือ คุณหญิงสุดารัตน์จากพรรคเพื่อไทยและคุณอภิสิทธิ์จากพรรคประชาธิปัตย์

โดยมีปัจจัยบงชี้สำคัญดังนี้
(1)กระแสต้องการเปลี่ยนรัฐบาลของประชาชนสูงมาก ถึงขนาดได้ข้อสรุปว่า”เลือกใครก็ได้ที่ไม่ใช่ประยุทธ์”

(2)พรรคหนุนประยุทธ์สูญเสียความนิยมจากชนชั้นกลาง(ล่าง)ขึ้นไปจนถึงชนชั้นกลาง(บน) โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ จากสาเหตุการบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวผิดพลาดของรัฐบาลประยุทธ์ และการออกนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่สร้างผลกระทบด้านลบกับชนชั้นกลาง

(3)พรรคหนุนประยุทธ์ เช่น พรรคพลังประชารัฐต้องช่วงชิงคะแนนจากฐานคะแนนเดิมของพรรคเพื่อไทย คือ ชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร คนในชนบทและคนยากคนจน แต่พรรคพลังประชารัฐยังไม่ประสบความสำเร็จในการช่วงชิงคะแนนดังกล่าว ยังไม่สามารถสะสมคะแนนให้ได้มากพอที่จะชนะเลือกตั้ง

(4)ความระส่ำไม่เป็นขบวนในพรรคหนุนประยุทธ์ เช่น พรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ผู้สมัครกว่า 70 % ไม่ออกหาเสียง ออกอาการยอมรับสภาพ ออกกระสุนไปก็แพ้จึงพากันเก็บกระสุนก้อนสุดท้ายจากพรรคไว้ใช้หลังเลือกตั้งดีกว่า “พลเอกสน”คนสนิทของพี่ใหญ่บูรพาที่เคยเดินสายส่งกระสุนหายหน้าไป “พี่ใหญ่”ออกอาการทิ้งตัว ยกธงขาว คนที่เคลื่อนไหวส่งกระสุนให้ผู้สมัครเฉพาะรายก็มีเพียง สมศักดิ์ สุริยะ วิรัช สุชาติ เท่านั้น กลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มกำแพงเพชร กลุ่มเพชรบูรณ์ และ ส.ส. โรนิน เริ่มต่อสายเข้าสังกัดเพื่อรับการสนับสนุน

(5)ส่วนฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเหนียวแน่น จะมีสูญเสียฐานคะแนนไปบางส่วนก็คือพรรคเพื่อไทย คือสูญเสียคะแนนช่วงคนสูงอายุในชนบทให้กับพรรคพลังประชารัฐ แต่การสูญเสียคะแนนก็ไม่มากพอที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้ง

(6)นิวโหวตเกือบ 8 ล้านคน ที่จะไปใช้สิทธิ์ครั้งแรกมีความโน้มเอียงในการลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่มากที่สุด รองลงมาก็จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ตามลำดับ

(7)พรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้งเกิน 100 ที่นั่ง จะมีเพียงสองพรรคคือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์

(8)ระหว่างสุดารัตน์และอภิสิทธิ์ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี? ขึ้นอยู่กับความสามารถและศักยภาพในการรวบรวมพรรคการเมือง รวบรวม ส.ส. ได้มากกว่ากัน คนผู้นั้นก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

คุณหญิงสุดารัตน์หรือคุณอภิสิทธิ์จะไม่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งมีอยู่สามกรณี
(1)การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ
(2)พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีและ ม. 44 สั่งยุบสภาผู้แทนราษฎรหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากสาเหตุ รัฐสภา(ส.ส.+สว.)ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้
(3)เกิดสถานการณ์ใหม่ มีความวุ่นวายหลังการเลือกตั้งจากสถานการณ์ที่เป็นไปเอง หรือจงใจสร้างสถานการณ์ขึ้น แล้วมีการรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้ง

#ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ
ไทกร พลสุวรรณ
19 มีนาคม 2562

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1852404744863905&set=a.198995820204814&type=3&theater

 

มติชนออนไลน์