‘มาร์ค’ถาม ถ้า’บิ๊กตู่’ไม่ร่วมดีเบต ทำไมเอารูปมาติดคู่ผู้สมัคร ชี้ อาสามาแล้ว ก็ต้องพร้อม

“มาร์ค” ลงพื้นที่สวนหลวง ร.9 ช่วยผู้สมัครหาเสียง ยอมรับบางเขต กทม.ยาก เหน็บ “พปชร.” ไม่คิด นโยบายจำนำข้าวกลับกล้าเสนอซ้ำ

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่สวนหลวง ร.9 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่ทักทายพี่น้องประชาชน เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายสามารถ มะลูลีม ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เขต 20 สวนหลวง-ประเวศ (แขวงดอกไม้-หนองบอน) และบริเวณตลาดเอี่ยมสมบัติ ถนนศรีนครินทร์ โดยมีประชาชนให้การต้อนรับและมาขอถ่ายรูปเซลฟี่กับนายอภิสิทธิ์ ด้วย

จากนั้น เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีโพลหยั่งเสียง ส.ส.กทม. ที่หลุดออกมาจากการแชร์กันภายในคนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งผลโพลชี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 19 ที่นั่ง ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ 11 ที่นั่งนั้นว่า เป็นธรรมดาของการสำรวจความคิดเห็น ที่ทำกันหลายสำนัก ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทางพรรคก็ตั้งเป้าว่า ครั้งนี้อยากจะทำงานให้พี่น้องคนกรุงเทพทั้งจังหวัด เชื่อว่าทุกเขตมีบุคลากรที่เดินหน้ามุ่งมั่นเต็ม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าบางเขต ก็อาจจะยากหน่อย เพราะเลือกตั้งเมื่อคราวก่อนก็อาจจะมีคะแนนน้อยกว่าพอสมควร ด้านผู้สมัครหน้าใหม่ ก็มีหลายเขต แต่มีความตั้งใจสูง ย้ำว่ามีคนทุกรุ่นอยู่ในพรรคผสมผสานทำงานด้วยกันได้

เมื่อถามถึง การที่พรรคพลังประชารัฐดูจะจริงจังกับพื้นที่ กทม.มากขึ้น โดยเฉพาะมีการเปิดนโยบาย “แบงค็อก โอเค” ทุกวันอังคารนั้น นายอภิสิทธ์กล่าวว่า ส่วนตัวไปพบปะประชาชนก็ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ สามารถร่วมดีเบตการเมืองได้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะมาร่วมดีเบตไม่ได้ เพราะถ้ามาร่วมไม่ได้ ทำไมถึงเอารูปติดป้ายช่วยผู้สมัครหาเสียงได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับที่ กกต. ทำความชัดเจน แต่ก็ดี เพราะทุกฝ่ายจะได้สบายใจและปฏิบัติให้ถูกต้อง

“แต่ตามหลักแล้วเมื่ออาสาตัวเข้ามาทำงานให้กับประชาชน ก็ต้องพร้อมที่จะเข้ามาสู่กระบวนการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นข้าราชการการเมือง ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนก็อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อตัดสินใจลงมาแล้วก็อยากจะให้แข่งขันบนความเสมอภาค เท่าเทียมกันเป็นไปตามหลักสากล” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากจะดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่เขามีสิทธิจะรู้ว่าแต่ละฝ่ายมีความคิดความอ่านอย่างไร สามารถให้มีการท้วงติงเปรียบเทียบได้ ไม่ใช่เป็นผลประโยชน์ของผู้สมัครด้วยกัน แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน

ส่วนกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก ของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีการโพสต์นโยบายที่มีความคล้ายคลึงกับนโยบายจำนำข้าวนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนอ่านดูก็เป็นโครงการจำนำข้าว การไปพยายามดึงข้าวออกจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าตลาด ซึ่งถ้าราคาไม่ขยับขึ้น ก็ต้องมาบริหารจัดการระบายข้าวก็ไม่ต่างอะไรกับการจำนำข้าว ส่วนตัวแปลกใจมาก ที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งบริหารบ้านเมืองมาหลายปีและทราบอยู่แล้วว่าความเสียหายจากการจำนำข้าวเป็นอย่างไร แต่กลับกล้าที่จะเสนอนโยบายจำนำข้าวอีก แม้ไม่ใช้คำว่า “จำนำ” หรือ “รับซื้อ” แต่ก็พูดในทำนองไปกู้ไม่มีดอกเบี้ย แล้วไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ ก็ไม่ต่างกับการจำนำข้าว ในขณะที่ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเอง ยังยอมรับว่าจะไม่ทำอีก ประเด็นอย่างนี้ที่ตนคิดว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์มาร่วมดีเบต ก็ต้องมาสนทนากัน เพราะท่านก็พูดหลายเรื่องเกี่ยวกับนโยบายในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่วันนี้กับกลายเป็นว่าพร้อมจะไปผลักดันนโยบายเหล่านั้น

เมื่อถามว่า ดูเหมือนจะเป็น “เพื่อไทยคิด พลังประชารัฐทำ” นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ประเทศชาติเสียหาย”