“ณัฐวุฒิ” ชี้ จนท.รัฐจ้องหาเรื่องเล่นงาน “คนอยากเลือกตั้ง” ซัด “อภิรัชต์-วินธัย” สงสัยอยากมีเรื่อง?

วันที่ 14 มกราคม 2562 ณ ที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักษาชาติ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเรียกร้องคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้งว่า ซึ่งมีการนัดหมายเป็นระยะก่อนหน้านี้ เมื่อวานล่าสุดคือแยกราชประสงค์ พรรคไทยรักษาชาติขอคัดค้านการคุกคาม หรือจับกุมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมอย่างสันติที่เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นเสรีภาพโดยชอบที่ประชาชนจะแสดงออกได้ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐต่อประชาชนเมื่อวานนี้ ภาพที่ออกมาไม่ได้ดูเป็นความพยายามในการบังคับใช้ตามกฎหมาย แต่วิธีการที่ใช้เป็นเรื่องหยุมหยิมเหมือนพยายามหาเรื่องหรือทำให้เกิดเป็นคดีความเพื่อเล่นงานประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว การเป็นไปตั้งเครื่องวัดระดับความดังของเสียงแล้วมาไล่ดูว่าเกิน 115 เดซิเบล มันชัดว่าต้องการที่จะทำให้เกิดเรื่อง หรือทำให้เป็นปัญหา ให้ประชาชนต้องออกมาแสดงร่วมกัน ผมว่าเจ้าหน้าที่รัฐควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ต้องแสดงออกว่า เคารพและให้เกียรติประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจธิปไตย

“เท่าที่ดู สาระของการชุมนุม ผู้ชุมนุมไม่ได้เปิดเกมส์รุก ผมตามข่าวจากคำแถลง เขากำลังแสดงออกว่ารับฟังและพร้อมจะถอย ยอมรับความจริงว่า การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คงไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่เป็นการเรียกร้องว่า หากจะเลื่อนออกไปก็ไม่ควรจะให้เลยไปเกินวันที่ 10 มีนาคม เพราะมีความกังวลในการตีความกรอบ 150 วันที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ ดังนั้น นัยยะในการเคลื่อนไหวของฝ่ายประชาชนนี้ ชัดเจนครับว่าไม่ได้อยากมีเรื่อง ไม่ได้มารุกรานกดดันผู้มีอำนาจ” ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักษาชาติ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แม้ไม่ได้พูดออกแต่ความหมายบอกอยู่แล้วว่า หาก 24 กุมภาพันธ์ เกิดขึ้นไม่ได้ ก็ขอให้ไม่่ล่าช้าเกินไป ไม่สุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมายในภายหลัง ดังนั้น ผมจึงประหลาดใจ เมื่อประชาชนแสดงท่าทีออกมาแบบนี้ แต่ฝ่ายผู้มีอำนาจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้บัญชาการทหารบก (พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์) กลับมีท่าทีอีกแบบ การบอกว่า ประชาชนเหล่านี้ เป็นกลุ่มคนที่น่ารำคาญ เท่ากับท่านเข้าไปกระทบกระทั่ง สร้างความขุ่นข้องหรือสร้างความเสียหายให้กับการเคลื่อนไหวของประชาชนโดยไม่จำเป็น ไม่เพียงเท่านั้น โฆษกคสช. (พ.อ.วินธัย สุวารี) ซึ่งที่ผ่านมาผมสังเกต ท่านพยายามระมัดระวังเวลาให้ความเห็นทางการเมือง แต่คราวนี้ ท่านสร้างวาทกรรม พูดจาเฉือดเฉือนการเคลื่อนโดยเจตนา เช่น บอกว่าวุฒิภาวะทางประชาธิปไตยบกพร่องบ้าง บอกว่าพวกนี้เคลื่อนไหวเป็นอาชีพบ้าง จึงสงสัยว่า ผู้มีอำนาจอยากมีเรื่องกับประชาชนมากกว่าหรือไม่

“เพราะว่าประชาชนเขาแสดงออก ใครมองว่าเขาพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทุกกรณี ข้อเรียกร้องก็ไม่ถึงคาดคั้นเอาเป็นเอาตาย แต่ดูเหมือนผู้มีอำนาจสาดน้ำมันเข้ากองไฟ ต้องระมัดระวังนะครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่า บรรดาท่านทั้งหลายที่มีอำนาจ จะทำให้สถานการณ์ยั่วยุอารมณ์ประชาชน เป้าหมายปลายทางจริงๆคืออะไร หากต้องการความสงบเรียบร้อย ส่วนตัวผมเชื่อว่า จะไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น วันนี้พรรคการเมืองทุกพรรค กลุ่มมวลชนทุกกลุ่ม มีความเชื่อตรงกันว่า ทุกคนไม่อยากออกมาเผชิญหน้า อยากสู้กันในการเลือกตั้ง อยากได้วันเลือกตั้งที่ชัดเจน เพื่อให้บ้านเมืองมีทิศทางเห็นอนาคตข้างหน้า ดังนั้น ผมว่าทุกฝ่ายควรปรับท่าที แล้วก็ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็ควรรีบเร่งทำให้กำหนดการเลือกตั้งเป็นความชัดเจน ความเคลื่อนไหวที่ท่านกังวลก็จะไม่มี พี่น้องประชาชนก็จะรอคอยวันที่แสดงออกต่อไป ผมหวังว่าหลังจากนั้น จะไม่เห็นวาทกรรมเหล่านี้อีก ถ้าไม่อย่างนั้น ผมกล่าวหาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าคนที่อยากมีเรื่องไม่ใช่ฝ่ายประชาชน แต่เป็นอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า อีกประการคือ เราอยากเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรค แสดงความชัดเจนร่วมกัน ว่าการเลือกตั้งหากจะต้องขยับไปจาก 24 กุมภาพันธ์ ก็ต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่านั้น ไม่ใช่มีบางพรรคบางฝ่ายที่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ แล้วได้ประโยชน์ถ้าการเลือกตั้งเลื่อนออกไป ก็เลยจะไปถ่วงรั้งด้วย แบบนี้ไม่เป็นคุณกับประเทศไทย

“ในส่วนพรรคไทยรักษาชาติ เราเดินหน้าเต็มที่ เมื่อวานไปเปิดตัวผู้สมัครที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เสียงสะท้อนเป็นเอกภาพชัดเจนคือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ ราคาพืชผล เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ที่อยากให้รัฐบาลเลือกตั้งดูแลแก้ไข การปลดใบเหลือไอยูยู ที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง แต่เสียงสะท้อนจากชาวประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านที่ได้รับ บอกว่าให้รัฐบาลไปฟังผลกระทบที่เกิดขึ้นบ้าง ไม่มีไปขัดขวางการปลดล็อกไอยูยู แต่ผลกระทบจากการดำเนินการของรัฐบาล ไม่ได้มีท่าทีรับฟัง หรือพร้อมมาเยียวยาแก้ไข ใบเหลืองไอยูยูปลดล็อกแล้ว แต่ชาวประมงจำนวนมากเหมือนถูกขังอยู่ไอซียู อาการปางตาย เรื่องแบบนี้รัฐบาลจะอยู่เฉยไม่ได้ พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะชาวประมง เขาสิ้นหวังกับรัฐบาลนี้และหวังให้รัฐบาลใหม่รับฟังและร่วมแก้ไข เหมือนกับประชาชนอีกหลายสาขาอาชีพที่คิดแบบนี้ การเลือกตั้งจึงมีความหมายในมิตินี้ด้วย ก็มีรัฐบาลนี้อยู่เกือบ 5 ปี แต่แก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็ต้องอยากได้รัฐบาลใหม่ เขาจึงรอคอยให้มีการเลือกตั้ง” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค หัวหน้าพรรคและแกนนำ จะลงพื้นที่ตลาดคลองเตยตั้งแต่เวลา 8.00 น.พบปะกับชาวบ้านและแนะนำตัวว่าที่ ส.ส.เขตคลองเตย เวลาแกนนำพบประชาชน ก็จะถือโอกาสสอบถามความเป็นอยู่ ความเห็นและประมวลออกมากำหนดเป็นนโยบาย ซึ่งไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าพรรคไทยรักษาชาติก็จะมีการประกาศนโยบายออกมาต่อไป