ดีเดย์ 2 ม.ค. ยื่นกู้บ้านล้านหลังในกลุ่ม 5.9 หมื่นล.-ธอส.แนะเตรียเอกสาร 3 ส่วน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า วันที่ 2 มกราคม 2562 ถือเป็น วันแรกที่ธนาคารเปิดให้ผู้จองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังติดต่อยื่นคำขอกู้กับธนาคาร กำหนดให้ลูกค้าในกลุ่มแรก 59,000 ล้านบาท ยื่นเอกสารก่อน จากผู้จองสิทธิสินเชื่อทั่วประเทศ 127,000 ล้านบาท มีกำหนดยื่นคำขอกู้รอบแรกถึ 29 มีนาคม 2562 ส่วนที่เหลือยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 – 28 มิถุนายน 2562

นายฉัตรชัยกล่าวว่า สิ่งที่ลูกค้าประชาชนต้องนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ นอกจากรหัสจองสิทธิที่ได้รับทาง SMS แล้ว ต้องมีหลักฐาน 3 ส่วน คือ 1.เอกสารแสดงตัวตน อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส(ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส(ถ้ามี) 2.เอกสารแสดงรายได้ อาทิ กรณีพนักงานประจำ ใบรับรองเงินเดือนหรือหนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือน สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง หรือกรณีผู้ประกอบอาชีพอิสระ แสดงสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ และรูปถ่ายกิจการ เป็นต้น 3.เอกสารแสดงหลักประกันหรือ ที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ อาทิ สัญญาจะซื้อจะขายราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท สำเนาโฉนดที่ดินหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด กรณีกู้เพื่อปลูกสร้าง แสดงใบอนุญาตปลูกสร้าง แบบแปลน ใบประมาณการปลูกสร้าง และสัญญาว่าจ้างก่อสร้างราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ประชาชนสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษา กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อในเรื่องเอกสารที่ต้องนำมาประกอบการยื่นกู้กับธนาคารในแต่ละวัตถุประสงค์การกู้ และแต่ละอาชีพ ได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และหากสามารถยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ครบถ้วน ธนาคารจะพิจารณาวงเงินสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้โดยคำนวณจากรายได้สุทธิของผู้กู้ รวมถึงราคาประเมินหลักประกันของที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ และราคาจะซื้อจะขายตามสัญญา จากนั้นจะรายงานผลการพิจารณาให้ผู้กู้ทราบต่อไป

“ธอส.คาดว่าจะมีผู้จองสิทธิยื่นกู้จริง 50,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/เดือน ซึ่งจองสิทธิสินเชื่อรวมกันสูงถึง 113,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าโครงการนี้ตอบโจทย์กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีบ้าน ข้อกำหนดให้ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,800 บาท/เดือนในช่วง 5 ปีแรก เป็นการผ่อนชำระที่ใกล้เคียงกับการจ่ายค่าเช่าบ้านในปัจจุบัน โดยโครงการดังกล่าวมีอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี คงที่นานถึง 5 ปีทำให้ไม่ต้องกังวลกับอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น และยังประหยัดค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมฟรี 4 ประเภท ”นายฉัตรชัย กล่าว

มติชนออนไลน์