“เพื่อชาติ” ลุยภาคกลาง ย้ำไม่หนุนเผด็จการ “จตุพร” ขอทุกคนแข่งแก้ปัญหาชาติ

เมื่อวานนี้ (26 ธันวาคม 2561) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะ พรรคเพื่อชาติ เดินสายพรรคเพื่อชาติสัญจร ภาคกลาง เป็นวันสุดท้าย พร้อมเปิดสถาบันพัฒนาการเมือง พรรคเพื่อชาติ โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ เป็นวิทยากรหลัก โดยเริ่มที่ จังหวัดสุพรรณบุรี และ นครปฐม

นายสงครามกล่าวว่า ณ ปัจจุบันพวกเราคนรุ่นเก่า ก็ลำบากพอแล้ว เราไม่อยากลำบากไปยิ่งกว่านี้อีก และเราจะไม่ยอมให้ลูกหลานเราลำบากกว่าเรา เพราะฉะนั้นนอกจากตัวเราแล้ว เราต้องสู้เพื่อลูกหลานเราในอนาคต นี่คือคำตอบที่ถามว่าทำไมตนจึงเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไม่ได้หวังอะไรมากกว่านั้น ตนสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่สามารถทำให้ประเทศไทยมีความเป็นธรรม มีความยุติธรรม ไม่เหลื่อมล้ำมากเกินไป แล้วบ้านเมืองนั้นมีความสงบสุข ถ้ามัวทะเลาะกัน ต่างชาติก็ไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุน ทำมาหากินลำบาก ฉะนั้นพรรคเราอาสาเป็นเกาะกลางที่สามารถคุยกับใครก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าเราจะไปร่วมสังฆกรรมตั้งรัฐบาลกับพวกเผด็จการ เราไม่เอา เราต้องยึดหลักประชาธิปไตย เพราะพวกเราหัวใจคือประชาธิปไตย หัวใจคือพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้น เผด็จการอํานาจนิยมนั้นไม่ได้อยู่ในสมองของเราแม้แต่น้อย

นายสงครามกล่าวอีกว่า พวกนี้นอกจากไม่รู้จักบุญคุณของประชาชน พวกนี้ยังเนรคุณ กดขี่ประชาชน ดูถูกประชาชน ชี้หน้าด่าประชาชน อ้างไม่มีเงินช่วยเหลือประชาชน แต่มีเงินไปซื้ออาวุธซื้อเรือดำน้ำ ที่พวกเขาซื้อไม่ใช่เพื่อความมั่นคงของประเทศแต่เป็นความมั่นคงของกระเป๋าพวกเขาเอง แต่ชาวบ้านลำบาก ยังมาด่าว่าคนจนโง่ คนจนขี้เกียจ คนแบบนี้เราจะไปเลือกเขาอีกหรือ อย่าปล่อยให้เขาเข้ามาสืบทอดอำนาจ เราจะไม่ยอมให้มรดกบาปนี้ตกไปแก่ลูกหลานเราอีก

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า คนที่ประกาศว่าช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตขอทำเพื่อชาติ ขอชดใช้แผ่นดินเกิดประเทศไทยจะได้อานิสงส์ ถ้าพี่น้องมอบความไว้วางใจให้พรรคเพื่อชาติ ประสบการณ์ของนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค จะมาแก้ไขปัญหาความจนให้กับพี่น้องสุพรรณบุรี และพี่น้องคนไทยทั้งชาติ ประเด็นต่อมา ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา ที่พรรคเพื่อชาติได้อธิบายถึงว่าเราเป็นพรรคเกาะกลาง คำว่าเกาะกลางนั้นเป็นเกาะกลางประชาธิปไตย ดังที่เห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นปัญหา จึงจำเป็นจะต้องพูดคุยกัน เพื่อที่จะตกลงเป็นสัญญาประชาคมร่วมกัน เพื่อหาทางออกให้กับชาติ ไม่ใช่คุยกับเผด็จการแล้วจะเป็นเผด็จการ คุยกับเผด็จการแต่เป็นประชาธิปไตย 100% ไม่มีวันจะเป็นเผด็จการโดยเด็ดขาด

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ถ้าไม่มีการพูดคุยเราจะไม่ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เราจะเห็นว่าคนบางคนตอนอยากเป็นสส.หาเสียงเกือบตาย แต่พอเข้าสภาแล้วไม่ไปทำหน้าที่ในการปกป้องประชาธิปไตย ท้ายที่สุดเราเสียประชาธิปไตยกันครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้พรรคเพื่อชาติคือพรรคประชาธิปไตย จะเป็นที่พักใจ เป็นที่อยู่อาศัยให้กับนักประชาธิปไตยทั้งหลาย แม้ตนจะไม่มีโอกาสเป็นสมาชิก แต่พี่น้องประชาชนที่นี่ท่านสามารถมาร่วมสร้างชาติกับพรรคเพื่อชาติได้ พรรคนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ พี่น้องประชาชนทุกคนที่เข้ามาร่วมสร้างพรรคเพื่อชาติ เราต่างเป็นเจ้าของพรรคเท่าๆกัน ขอแรงพี่น้องสุพรรณบุรีไม่ต้องมองหน้าคู่แข่งไม่ต้องสนใจ วันนี้เราแข่งขันกับปัญหาของชาติ เราแข่งขันกับ ปัญหาความยากจน เราแข่งขันกับความเหลื่อมล้ำของชาติ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในลำดับ 1 ของโลกแล้ว เราแข่งขันกับความเอารัดเอาเปรียบทั้งปวง เราไม่ได้แข่งขันกับคนเก่า เราแข็งขันกับประเทศไทย ถ้าเราร่วมแก้ปัญหาให้กับประเทศไทยได้เราก็ชนะแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนและหลังการเป็นวิทยากรที่ สุพรรณบุรี นายจตุพร นายสงคราม และคณะได้แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ พระบรมราชานุสรณ์ ดอนเจดีย์ และ วัดป่าเลไลย์ ก่อนจะสิ้นสุดการเดินสายที่สุดท้ายที่ จังหวัดนครปฐม