“เพื่อชาติ” ชี้ พ.ร.บ.คู่ชีวิต เป็นอนุรักษ์นิยมเกินไป แนะกม.ควรเกิดใน รัฐบาลปชต.มากกว่า

เมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม 2561) นายสุไพรพล ช่วยชู หรือ คุณป๊อบ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ประเภทพื้นที่ ของกรุงเทพฯ เผยระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการนับถอยหลังเลือกตั้ง ของสถานีโทรทัศน์ Peace TV ว่า “LGBTQ ย่อมาจาก L : เลสเบี้ยน หญิงรักหญิง G : เกย์ ชายรักชาย B : ไบเซ็กชวล กลุ่มที่เป็นผู้ชายมีครอบครัวมีภรรยาแล้ว และมีความสัมพันธ์กับชายด้วยกัน T : Transsexual คือกลุ่มสาวประเภทสอง ได้รับการแปลงเพศเป็นเพศหญิงแล้ว Q : Queer มีลักษณะเฉพาะทางเพศ มีความรักและความสัมพันธ์ในทุกเพศ ต่อไปคงจะมีกลุ่มอื่น ๆ แยกเยอะขึ้นอีก”

คุณป๊อบกล่าวต่อไปว่า สังคมไทยเราเปิดรับในเรื่องแบบนี้มาบ้าง แต่ในแง่สังคม การเมือง และศาสนา ยังมีการกีดกันในสิทธิเสรีภาพ เช่น การสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การยกมรดกให้กันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือการช่วยเหลือเรื่องเลี้ยงดูบุตร การให้อำนาจคู่สมรสในการยินยอมให้รักษาพยาบาล ต่างๆ หรือแม้แต่การประกันชีวิตที่ยังมีอุปสรรคทางข้อกฎหมายมากมาย จะเห็นว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่เสนอกันขึ้นมา ยังไม่อนุญาตให้สามารถรับมรดกกันได้ ยังไม่สามารถให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาลกันได้ ถือเป็นร่างกฎหมายที่ยังไม่ผ่านและยังใช้ไม่ได้ ตนถือว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต ยังยึดแนวอนุรักษ์นิยมจนเกินไป ในสังคมไทยที่ควรเปิดกว้างมากกว่านี้”

คุณป๊อบกล่าวต่อไปว่า พรรคเพื่อชาติ ถือเป็น “เกาะกลาง” ทางการเมืองที่รับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย จึงจะพัฒนานโยบายที่ตรงประเด็นที่สุดที่การเชื่อมโยงทางสังคม โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง LGBTQ กลุ่มที่มีจำนวนประชากรมากถึงล้านกว่าคนในสังคมไทยกลุ่มนี้ ต้องการ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ถูกต้อง สมเหตุสมผล และครอบคลุมในทุกมิติมากกว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิตของระบอบเผด็จการ

“นอกจากนี้พรรคเพื่อชาติจะดำเนินการผลักดันให้เกิดนิติบุคคลเพื่อให้เป็นโครงสร้างระดับชาติ รองรับประเด็นปัญหาและบุคคลในกลุ่ม LGBTQ เพื่อให้สามารถรวมตัวกันศึกษาหาความรู้ได้ มีงบประมาณในการให้ศึกษาหาความรู้ในกลุ่ม LGBTQ ได้ สร้างความเข้าใจ ลดอคติระหว่างกันในสังคม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด” คุณป๊อบกล่าวและว่า ในครั้งที่เสวนางาน LGBTQ กลุ่มหลากหลายทางเพศ มีทั้งตัวแทนจากพรรคเพื่อชาติ และอีกหลายพรรคในวันนั้น ได้เสนอให้แก้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในแนวทางที่ใกล้เคียงกัน แต่พรรคเพื่อชาติมีความประสงค์จะทำให้เกิดการลดอคติของคนในสังคมทุกมิติ ให้เปิดใจมากขึ้นในประเด็นปัญหาต่างๆ และในเรื่องของสิทธิ์การสมรส

ท้ายที่สุด ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อชาติได้สรุปว่า เรามีความประสงค์ให้ พ.ร.บ. LGBTQ มาจากรัฐบาลประชาธิปไตยมากกว่าในระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย ในส่วนสำคัญ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ยังไม่ตกผลึกทางความคิด ไม่มีการเจรจาหารือกันของตัวแทนจากหลากหลายอาชีพ ยังไม่เน้นบทบาทของ social media การแต่งงานสมรสกันก็ยังไม่มีมาตรฐานเดียวกันหรือเท่าเทียมกัน เช่น คำนำหน้าชื่อ การรับเลี้ยงลูก จนปัญหาเกิดขึ้นกับลูก ก็ยังไม่มีกฎหมายรองรับ

ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันมีมานานมากแล้วตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ซึ่งจะเห็นได้จากภาพวาดทั้งฝาผนัง แก้ว ชามที่ปรากฏ โดยตอนหลังมีศาสนามาคิดแบ่งแยกความชั่ว-ความดีกันทีหลัง ไม่ได้หมายความว่าศาสนาไม่ดี แต่บางคนใช้ศาสนาไปในทางสุดโต่งจนเกิดการเหยียดเพศและแตกแยก กฎหมาย ปปช. ที่จี้ให้แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ถือเป็นการขยันผิดเรื่อง มีเรื่องที่ควรทำมีปัญหาแบบเร่งด่วนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชนที่ตกต่ำ ควรเร่งแก้ไขลำดับแรกก่อน เพราะกระทบทุกคนในสังคม รวมทั้งกลุ่ม LGBTQ

“กลุ่ม LGBTQ หลายท่านมีความสามารถ ทั้งในฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายตรงข้าม ต้องมองศักยภาพของแต่ละคนที่ต้องนำมาใช้ประโยชน์ ไม่ใช่ผลักพวกเขาออกจากสังคม พรรคเพื่อชาติจะเปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาในพรรค รวมทั้งกลุ่ม LGBTQ เข้ามามีส่วนสำคัญในนโยบายของพรรค ถือเป็นพี่น้องประชาชนเหมือนกัน ผลักดันครอบครัวเปิดใจและเข้าใจ ให้เขาได้มีพื้นที่ทางสังคม ไม่เกิดปัญหาแปลกแยกทางสังคม และปลดภาระที่แบกบนบ่าให้หมดไปในแง่ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน เพื่อจะได้มีศักยภาพต่อไปในระบอบประชาธิปไตย” ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขตกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อชาติกล่าว