วันที่ 6 ธันวาคม 2561 เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ทำการชั่วคราวพรรคเพื่อชาติ ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง ได้ตั้งโต๊ะแถลงการณ์ต่อสื่อกรณีการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายในวันที่ 7 ธันวาคม โดยสรุปพรรคเพื่อชาติมีมติไม่ร่วมการประชุมดังกล่าว

แถลงระบุว่าพรรคเพื่อชาติ ในฐานะที่อาสาเป็นเกาะกลางประชาธิปไตย หวังจะได้เห็นการพูดคุย เสนอแนะ ในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งได้อย่างอิสระ กับทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง แต่เมื่อทางคสช.ได้ตั้งธงของการพูดคุยไว้แล้ว เพียงเชิญตัวแทนพรรคการเมือง เข้าร่วมเพื่อให้รับฟังสิ่งที่ คสช.ต้องการเท่านั้น มิได้ต้องการรับฟังความคิดเห็นจากทางฝั่งพรรคการเมืองอย่างแท้จริง ก็ไม่เห็นประโยชน์อันใดที่เราจะเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ที่เหมือนจะจัดขึ้นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับข้อเสนอของ คสช.เท่านั้น

อีกทั้ง คสช.เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง กับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ที่มีกระบวนการหลายประการส่อให้เห็นถึงความพยายามในการสืบทอดอำนาจ ของ คสช.รวมถึงการเกิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี 4 รัฐมนตรีจากรัฐบาล คสช.เป็นแกนนำของพรรค ที่ยังเสนอชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคดังกล่าว  นโยบายต่าง ๆ ของรัฐ คำสั่ง คสช. กฎกติกาบางอย่าง ก็ดูจะเอื้อต่อพรรคการเมืองบางพรรคเป็นพิเศษ แต่การประชุมร่วมดังกล่าว ก็ยังได้มีชื่อของ พลเอกประยุทธ์ เป็นประธานในการประชุมอีก ในสถานที่ คือ “สโมสรกองทัพบก”

“ทางพรรคเพื่อชาติ เกิดขึ้นด้วยความประสงค์ดีต่อประเทศ ต้องการยุติความขัดแย้ง เพื่อให้บ้านเมืองสามารถเดินต่อไปได้ ตามครรลองประชาธิปไตย หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้ทำทุกสิ่งที่ทำได้ เพื่อชาติ อย่างแท้จริง การไม่เข้าร่วมการประชุมร่วมในครั้งนี้ ของหลายพรรคการเมืองฟากฝั่งประชาธิปไตย เราเห็นว่า ไม่ส่งผลใดต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม ทุกพรรคการเมืองพร้อมที่จะทำตามกฎกติกาอยู่แล้ว ไม่ว่ากฎกติกานั้นจะเกิดขึ้นจากความไม่ชอบธรรม เอารัดเอาเปรียบกันก็ตาม แต่เราก็พร้อมทำตามเพื่อให้การเลือกตั้งสามารถดำเนินต่อไปได้ เพียงแต่จะไม่ขอร่วมสร้างความชอบธรรมให้กับสิ่งที่ คสช.ต้องการ และมิเห็นประโยชน์อันใดที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ จากการเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้” โฆษกพรรคเพื่อชาติ ระบุตามแถลงการณ์

สุดท้ายนี้ ทางพรรคเพื่อชาติ ขอเรียกร้องให้ คสช.ยุติการแทรกแซง กระบวนการจัดการเลือกตั้ง ถอยหลังออกจากสนามไปเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ หากหัวหน้า คสช.ต้องการเข้าสู่อำนาจจริง ขอให้ลาออกจากตำแหน่ง ลงมาสู้ในสนามอย่างฟรีและแฟร์ ไม่ใช้นโยบาย งบประมาณของรัฐ สร้างความได้เปรียบ ให้กับพรรคพวกตนเอง อย่างที่เห็นกันอยู่ รวมถึงเร่งปลดล็อคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างอิสระ ไม่สร้างข้อจำกัดใดขึ้นมาอีก เป็นการเลือกตั้งที่จะนำบ้านเมืองไปสู่ทางออกของความขัดแย้งได้อย่างแท้จริง มีรัฐบาลที่สง่างาม ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ ให้พ้นจากวิกฤติได้โดยเร็ว