เครือข่ายชาวสวนยางบึงกาฬ ค้านมาตรการรัฐ แนะใช้ 2 หมื่นล้านซื้อน้ำยางดีกว่า

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ห้องรับรองชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำและรับข้อเรียกร้องเสนอต่อรัฐบาล จากเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดบึงกาฬ ในการนี้มีหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดบึงกาฬที่เกี่ยวข้อง อาทิ สหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ และหัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์บึงกาฬ เข้าร่วมการประชุมหารือด้วย จากนั้นตัวแทนเกษตรกรได้ร่วมกันยื่นหนังสือผ่านทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

โดยนายณัฐพล คำมี ประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยางที่รัฐบาลจะออกมาตรการมาช่วยเหลือโดยการอนุมัติงบกลาง เป็นวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่ออุดหนุนให้แก่เกษตรกรไร่ละ 1,500 บาท จำนวนไม่เกิน 15 ไร่นั้น เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดบึงกาฬขอคัดค้านในแนวทางที่เสนอดังกล่าว เพราะมองว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องราคายางที่ตกต่ำ คิดว่าการใช้งบประมาณจะไม่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร และมองแนวทางที่จะส่งผล อันสามารถเชื่อใยงให้เกิดระบบที่ส่งผลต่อราคายางพาราที่ดีกว่าโดยมีข้อเสนอดังคือ ให้นำเม็ดเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาทไปซื้อน้ำยาง เพื่อนำไปใช้ในหน่วยงานภาครัฐ ในราคา 42 บาทต่อกิโลกรัม จะสามารถซื้อน้ำยางได้ประมาณ 1,428,560 ตัน ซึ่งจะทำให้เกิดระบบที่เอื้อต่อราคายางเช่น เมื่อราคาน้ำยางสูงกว่าราคายางอื่นก็จะทำให้มีการปรับเปลี่ยนมาทำน้ำยางมากขึ้น มีผลทำให้โรงงานที่ผลิต STR 20 ที่ต้องการยางก้อนถ้วยต้องแข่งขันกันเพื่อต้องการวัตถุดิบป้อนโรงงาน จะมีผลทำให้ราคาเพิ่มตาม อย่างอัตโนมัติ และเมื่อรัฐบาลสามารถดึงยางออกจากระบบตลาดก็จะมีผลต่อความต้องการยางตามระบบ โครงการใช้ยางภาครัฐก็จะบรรลุเป้าหมาย ประชาชนขายยางได้ราคาดี มีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอและความคิดเห็นของเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดบึงกาฬจะได้รับการพิจารณา เพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางและส่งผลต่อสังคมมวลรวมอย่างยั่งยืน

ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬกล่าวหลังจากการประชุมหารือกับเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งจากนี้จะได้มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้รับข้อเรียกร้องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป