“วิษณุ”แนะ แก้กม.ปลดล็อกกัญชาชั้นกมธ.ได้ หลังหลายฝ่ายกังวล ต่างชาติจดสิทธิบัตร

“วิษณุ” แนะ แก้กฎหมายปลดล็อกกัญชาในชั้นกรรมาธิการได้ หลังหลายฝ่ายกังวล ต่างชาติยื่นจดสิทธิบัตร เชื่อ กระบวนการเสร็จทันปีนี้

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปลดล็อคกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติดขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของสภาฯ แต่ยังไม่สามารถออกมามีผลบังคับใช้ได้เพราะเป็นกฎหมายที่ใหญ่ และยาวมาก อีกทั้งตนก็ไม่แน่ใจว่าจะแล้วเสร็จทันในสมัยนี้หรือไม่ เท่าที่ทราบยังไม่มีความคืบหน้าเท่าไร แต่เมื่อมีการเรียกร้องอยากจะใช้น้ำมันกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ เดิมทีเราโยนว่าให้รอประมวลกฎหมายยาเสพติดดังกล่าว แต่เนื่องจากใช้ระยะเวลายาวนาน เกรงจะไม่ทันการ หรืออาจจะเสร็จไม่ทันในสภาฯชุดนี้ จึงได้ตัดเอาเฉพาะบางส่วนในกฎหมายยาเสพติด เฉพาะเรื่องกัญชา และเสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แก้ไขกฎหมายยาเสพติดเพียงบางมาตราที่เกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องกัญชา ถือเป็นร่างกฎหมาย ส.ส.และมีการส่งมาขอความเห็นจากรัฐบาล รัฐบาลจึงรับร่างดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน โดยครม.ให้ความเห็นชอบและเห็นว่าควรให้นำกลับเข้าสู่สภาฯได้ ซึ่งปกติเมื่อ ครม.รับร่างกฎหมายจากสภาฯมาจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แต่ครั้งนี้ ครม.รับมาและใช้เวลาเพียง 7 วัน ก่อนจะให้ความเห็นกลับไปโดยมีการตั้งข้อสังเกต ซึ่งตามคิวแล้ว ตั้งใจจะนำร่างกฎหมายฉบับนี้เข้า แต่อาจจะไม่ทันเนื่องจากมีกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับที่เข้าคิวอยู่ เป็นกฎหมายที่คนสนใจมาก และผ่านการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการเสร็จสิ้นแล้ว รอการเห็นชอบจากสภาฯ ได้แก่ กฎหมายเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะเล และกฎหมายเกี่ยวกับภาษีทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเชื่อว่าจะเสร็จภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ในวันพุธของสัปดาห์ต่อไป จะเป็นคิวการพิจารณากฎหมายยาเสพติดเป็นคิวแรก

เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องการยื่นจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติของบริษัทต่างชาติในประเทศไทยนั้น นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้ถือว่าไม่ใช่ร่างของรัฐบาล แต่พอมีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว ทำให้หลายคนเป็นห่วง ซึ่งความจริงไม่ยาก หากกฎหมายยาเสพติดเข้าสู่สภาฯ และสภาฯรับหลักการก็สามารถไปแก้ไขเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการได้ และคิดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้และทันในปีนี้