ผลสะเทือน คารวะ แผ่นดิน ของ รวมพลังประชาชาติไทย

การเดินสายพบประชาชนเป็นกิจกรรมสำคัญที่ทุกพรรคการเมือง ต้องกระทำ ไม่ว่าเพื่อเชิญชวนให้สมัครเป็นสมาชิกพรรค ไม่ว่าเพื่อหาเสียงแถลงนโยบาย

หากสังเกตการเดินสายของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะที่เยาวราช ไม่ว่าจะที่ถนนสีลม

ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความคึกคัก มากด้วยสีสัน

หากสังเกตการเดินสายของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะที่นครราชสีมา ไม่ว่าจะที่ย่านประตูน้ำ

มีประชาชนมาให้การต้อนรับ แลกเปลี่ยนปัญหากัน

คำถามอันตามมาก็คือ เหตุใดการเดินสายของพรรครวมพลังประชาชาติไทยจึงกลายเป็นปัญหาว่าเกิดปรากฏการณ์ก่อกวน

หรือเพราะว่ามี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินนำ

ต้องยอมรับว่าแม้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศชัดว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง จะไม่ขอมีตำแหน่งใดๆในพรรคและในอนาคตหากว่าได้เข้าร่วมเป็นรัฐบาล

แต่ “คำประกาศ” นี้แหละที่กลายเป็น “ประเด็น”

ตัวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เองก็รู้ตั้งแต่แรก ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล ซึ่งอยู่ในฐานะหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยเองก็รู้

เมื่อรู้ จึงพร้อมที่จะรับมืออย่างสุขุม เยือกเย็น

ไม่ว่าภาษากายของชาวบ้านที่ยืนกอดอกเฉยที่ปากคลองตลาด ไม่ว่าคำถามจากชายชราที่เยาวราช ไม่ว่าความสงสัยของสตรีที่เห็นว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่รักษาคำพูด

และร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการคืน “นกหวีด” ให้ไม่ว่าที่ปราจีนบุรี ไม่ว่าที่ฉะเชิงเทรา

บทบาทก่อนรัฐประหารนั่นเองที่กลายเป็น “คำถาม”

เป็นคำถามโดยตรงไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และมีผลสะเทือนถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย

เท่ากับยิ่งเดินก็ยิ่งตอกย้ำ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”

จากนี้จึงเห็นได้ว่าที่พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทย เดินสายคึกคักด้วยวงล้อมของประชาชน เพราะว่าเป็นการเดินไปข้างหน้า เดินไปยัง “การเลือกตั้ง”

ขณะที่การเดินของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเท่ากับเป็น การเดินย้อนไปยัง “อดีต”

ตอกย้ำถึง “แผล” ก่อน “รัฐประหาร