พณ.ให้มั่นใจส่งออกข้าวไทยยังสดใส โชว์ออเดอร์เพียบ ทั้งปีได้แน่11ล้านตัน

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดผู้นำเข้าข้าวต่างประเทศ มีความต้องการข้าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2561 ยังคงไปได้ดี โดยล่าสุดการส่งมอบข้าวให้COFCO รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้สัญญาแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี)งวดที่ 6 เป็นชนิดข้าวขาว 5% ปริมาณ 100,000 ตัน มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท คาดว่าจะส่งมอบแล้วเสร็จภายในกลางเดือนพฤศจิกายน 2561 และจะเร่งรัดเจรจากับ COFCO เพื่อส่งมอบข้าวงวดที่ 7 อีก 100,000 ตัน โดยเร็วต่อไป

นายอดุลย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งซื้อข้าวจากการเปิดประมูลนำเข้าข้าวของรัฐบาลต่างประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลนำเข้าข้าวเป็นการทั่วไปรวม 3 ครั้ง ครั้งละ 250,000 ตัน รวม 750,000 ตัน เริ่มเปิดประมูลครั้งแรกวันที่18 ตุลาคมที่่ผ่านมา กำหนดส่งมอบภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 และจะเปิดประมูลอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 8 และ 22 พฤศจิกายน 2561 จนครบ 750,000 ตัน โดยในการประมูล 2 ครั้งหลังมีกำหนดส่งมอบข้าวภายในเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งผลการประมูลครั้งแรกปรากฏว่า ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวได้ไม่ครบ 250,000 ตัน โดยมีผู้ชนะการประมูลเพียง 2 ประเทศ ปริมาณรวม 47,000 ตัน คือ จากไทย 18,000 ตัน และเวียดนาม 29,000 ตัน จึงจะเปิดประมูลเป็นการทั่วไปอีกครั้งเพื่อนำเข้าข้าวให้ครบตามปริมาณที่กำหนด

นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับญี่ปุ่นได้เปิดประมูลนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2561 และได้ตกลงซื้อข้าวจากไทยปริมาณรวมกว่า 87,000 ตัน คิดเป็น 60% ของปริมาณรับซื้อข้าวทั้งหมด อีกทั้งตลาดข้าวไทยในภูมิภาคอื่นๆ ยังมีการสั่งซื้อข้าวไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อสถานการณ์ตลาดข้าวของไทยและราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรชาวนาจะได้รับ เนื่องจากมีคำสั่งซื้อข้าวปริมาณมากอย่างต่อเนื่องมารองรับผลผลิตข้าวฤดูนาปีที่กำลังออกสู่ตลาด ทำให้ระดับราคาข้าวไทยให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น

“ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 19 ตุลาคม 2561 ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 8.932 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.71% คิดเป็นมูลค่า 4,606 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21.20% หรือประมาณ 147,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13.56% โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ เบนิน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จีน และแอฟริกาใต้ คาดการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ จะบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 11 ล้านตัน อย่างแน่นอน ”

นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับการประกวดข้าวดีเด่นของโลก (The World’s Best Rice Award) ที่ปีนี้ข้าวหอมมะลิไทยได้ลำดับที่ 3 ส่วนข้าวอังกอร์ของกัมพูชาและข้าวหอมเวียดนามได้ลำดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยการประกวดดังกล่าวจัดโดยนิตยสาร The Rice Trader องค์กรเอกชนที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอุตสากรรมข้าว ซึ่งใช้วิธีการตัดสินโดยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและพ่อครัวที่มีชื่อจากสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ เป็นกรรมการ และใช้เกณฑ์การตัดสิน 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกลิ่น รสชาติ ความเหนียวนุ่ม และรูปร่าง ดังนั้น การตัดสินจึงขึ้นอยู่กับรสนิยมของกรรมการเป็นหลักด้วย ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงด้านคุณภาพที่แท้จริง

นายอดุลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาข้าวหอมมะลิไทยสามารถครองแชมป์ข้าวดีเด่นโลกได้มากที่สุดในโลกรวมกันถึง 5 สมัย จากการประกวดทั้งหมด 10 ครั้ง จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย เนื่องจากข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นที่นิยมและต้องการในตลาดโลก จะเห็นได้จากที่ผ่านมาราคาข้าวหอมมะลิไทยปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีความต้องการซื้อแต่ปริมาณผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยปีการผลิต 60/61 มีค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นรักษาคุณภาพและดูแลมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยอย่างเข้มงวดต่อไป รวมทั้งการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวคุณลักษณะพิเศษชนิดใหม่ที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าว กข43 ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดโลก เพื่อสร้างโอกาสและตลาดใหม่ๆ ให้กับข้าวไทยต่อไป