‘พีระศักดิ์’ยกทีมสนช.รับฟังร่างพ.ร.บ.ข้าว ปัดลิดรอนสิทธิ มุ่งขจัดพ่อค้าตุกติก

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 2 พร้อมด้วยสมาชิก สนช. อาทิ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ และนายกรรณภว์ ธรภรรคกวิน ลงพื้นที่รับฟังความเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 67 จังหวัดกว่า 1,000 คน เพื่อนำความเห็นของประชาชนไปประกอบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ…. โดยนายพีระศักดิ์กล่าวว่า ขั้นตอนในวันนี้คือการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายมาตรา 77 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ 2560 สนช.ใช้สิทธิของสมาชิก 25 คนขึ้นไปเสนอกฎหมายนี้ก่อนที่จะยื่นให้ประธาน สนช.รับเรื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากอธิบดีกรมการข้าวและประชาชนจากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องผลกระทบจากพ่อค้าหรือใครก็ตามนั้นต้องรับฟังจากทุกภาคส่วน

เมื่อถามว่ามีคนวิจารณ์ว่าการทำร่างกฎหมายในช่วงนี้ของ สนช.เพื่อหาเสียงล่วงหน้าและช่วยรัฐบาล นายพีระศักดิ์กล่าวว่า สนช.มีโครงการลงพื้นที่พบประชาชนอยู่ตลอด และนำความเดือดร้อนของประชาชนมาพิจารณา เรื่องข้าวนั้นเราทำมาตลอดอยู่แล้ว รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีความสุข ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ทำกฎหมายให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม แต่คนมักมอง สนช.ไปโยงการเมือง ทั้งที่จริงเราทำงานเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน และคิดว่าร่างกฎหมายตัวนี้จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ทำให้ห่วงโซ่สมดุลทุกฝ่าย ทั้งพ่อค้าข้าวและเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิก สนช. กล่าวว่า เราเสนอกฎหมายนี้ไม่ได้มีเป้าหมายไปลิดรอนสิทธิใคร ไม่ว่าพ่อค้าหรือชาวนา เราต้องดูแลทุกกลุ่มทุกฝ่ายให้เข้าใจกัน กฎหมายฉบับนี้ผู้รับซื้อข้าวต้องไปจดทะเบียน และอาจจะต้องมีการออกใบเสร็จรับซื้อข้าว ทั้งพันธุ์ข้าว ความชื้น และราคาข้าว แต่เราไม่ได้บังคับผู้ซื้อข้าวอย่างเดียว แต่ต้องรวบรวมฐานข้อมูลข้าวให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะปัจจุบันไม่มีข้อมูลตรงนี้ การค้า ซื้อขาย ต้องมีใบเสร็จเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกเรื่องใหม่ แน่นอนว่าตรงนี้เราออกกฎหมายเพื่อใช้กับทุกคน ไม่ได้เลือกปฏิบัติ พ่อค้าที่ขายแบบตรงไปตรงมาไม่ได้รับผลแน่นอน แต่คนที่ตุกติกก็สมควรที่จะถูกลงโทษ หากว่าคนส่วนน้อยมามีอิทธิพลกับคนส่วนใหญ่เราก็ต้องช่วยกัน

พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า เราได้รับข้อมูลจากชาวนาทั่วประเทศ ต้องรวบรวมข้อมูลทั้งจากเว็บไซต์ของรัฐสภา การลงพื้นที่รับฟัง โดยเราตั้งเป้าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ให้ทันภายในวันที่ 20 ส.ค.2561 และเมื่อประธาน สนช.ได้รับร่างกฎหมายแล้ว ท่านจะไปพิจารณาและบรรจุในการประชุมวิป สนช. และพวกเราที่เสนอจะไปชี้แจง ซึ่งหากผ่านจะนำบรรจุในการประชุม สนช.เพื่อพิจารณาและส่งต่อให้รัฐบาลนำไปพิจารณาต่อไป
นายกรรณภว์ ธรภรรคกวิน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ข้าวฉบับนี้ไม่อยากให้เป็นเรื่องของการเมือง เพราะเกษตรกรควรจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สนช.มีช่องทางก็ต้องทำ และเรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน การทำกฎหมายนี้ต่อยอดมาจาก พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ.2560 ซึ่งวางโครงสร้าง พ.ร.บ.ข้าวมาแล้วถึง 2 ปี ไม่ใช่มาทำวันนี้