ศาลฎีกาฯรับฟ้อง ยึดทรัพย์เมีย”กีร์” 42 ล้านตกเป็นของแผ่นดิน นัดพิจารณาครั้งแรก 28 ก.ย.นี้

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ศาลนัดฟังคำสั่ง ในคดีหมายเลขดำ อม.77/2561 ที่อัยการสูงสุด ผู้กล่าวหา ฟ้อง นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อายุ 45 ปี ผู้ถูกกล่าวหา ขอให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 38 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเมื่อเดือน พ.ค.61 ว่า นางระพิพรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ รวมมูลค่า 42,816,226 บาท

โดยวันนี้ องค์คณะทั้ง 9 คน ประกอบด้วย นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา, นายไสลเกษ วัฒนพันธ์ รองประธานศาลฎีกา, นายประทีป ดุลพินิจธรรมา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา , นายนิพนธ์ ใจสำราญ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา, นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฎีกา, นายโสภณ โรจน์อนนท์ รองประธานศาลฎีกา, นายพิศล พิรุณ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง, นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง รองประธานศาลฎีกา และนายชัยยุทธ ศรีจำนง ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา ได้ประชุมภายในเพื่อเลือกเจ้าของสำนวน และได้พิจารณาคำฟ้องรวมทั้งข้อกฎหมายว่าคดีอยู่ในอำนาจที่พิจารณาพิพากษาหรือไม่
ซึ่งวันนี้ทีมทนายความของนางรพิพรรณ ได้มาติดตามผลคำสั่งศาลด้วย

กระทั่งเวลา 14.00 น. ทีมทนายของนางระพิพรรณ เปิดเผยว่า ศาลได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีไว้ และนัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 28 ก.ย. เวลา 14.00 น. ซึ่งในวันดังกล่าวนางระพิพรรณ ต้องเดินทางมาศาล เพื่อสอบถามว่าจะรับ
สารภาพหรือปฏิเสธ โดยศาลจะส่งหมายแจ้งวันนัดให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้งที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ได้ระบุทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณไว้ ดังนี้ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงิน 27,618,954 บาท, ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2,000,000 บาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,805,272 บาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวนเงิน 1,900,000 บาท รวมมูลค่า 42,816,226 บาท