เทศมองไทย : “เส้นทาง” ที่เกาะกง กับปมค้าอาวุธ “กะเหรี่ยง”

ในขณะที่เรื่องราวในส่วนที่เกี่ยวข้องกับไทยเป็นอันกระจ่างในระดับหนึ่งแล้วว่ามี “ทหารนอกแถว” บางคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้า “อาวุธและยุทธภัณฑ์” ที่ถูก “เทกระจาด” เพราะรถกระบะที่ใช้ลำเลียงประสบอุบัติเหตุที่จังหวัดตราด เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

เรื่องเดียวกันนี้ยังไม่ “สะเด็ดน้ำ” นัก ในกัมพูชา หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ยังคงติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่องมาเป็นระยะๆ

รายงานชิ้นล่าสุดของพนมเปญโพสต์ โดย เมช ดารา กับ ฌอว์น เทอร์ตัน เผยแพร่ออกมาเมื่อ 26 มิถุนายนที่ผ่านมานี้นี่เอง

เหตุผลก็คือ สำหรับกัมพูชาแล้ว เรื่องนี้ยังมีคำถามอีกมากมายที่ยังไม่มีคำตอบ

 

ตามรายงานของพนมเปญโพสต์ เมื่อ 21 มิถุนายน ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ว่า เกิดเมื่อ 07.40 น.วันที่ 3 มิถุนายน เมื่อรถของ พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ ประสบอุบัติเหตุที่จังหวัดตราด ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอาวุธสงครามจำนวนมาก ทั้งปืนเอเค 47, ปืนกล, ระเบิด และกระสุน

เลียง พิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยศ ร.ต.ท. สังกัดกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา เข้ามาสมทบกับ พ.อ.อ.ภคินในที่เกิดเหตุไม่นาน เลยถูกรวบตัวไปพร้อมกัน

พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ในจังหวัดตราด ซึ่งมีเขตแดนติดต่อกับจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา ด่านชายแดนถาวรระหว่างประเทศที่ตรวจสอบการเข้า-ออกของคนทั้งสองประเทศในบริเวณดังกล่าวคือ ด่านตรวจบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่บ้านจามเยียม อ.มณฑลสีมา ของจังหวัดเกาะกง ทางกัมพูชาเรียกว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองจามเยียม

เจ้าหน้าที่ด่านจามเยียมจึงได้รับความสนใจจากพนมเปญโพสต์เป็นพิเศษ

 

เจ้าหน้าที่ “อาวุโส” ที่ด่านดังกล่าวบอกกับพนมเปญโพสต์ว่า เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบรถ “เรนจ์โรเวอร์” สีขาว ซึ่ง เลียง พิเสธ ใช้ในขณะถูกจับกุม ขับผ่านพื้นที่ดังกล่าวเมื่อเช้าวันเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่รายเดียวกันอ้างว่า เทปของซีซีทีวี แสดงให้เห็นว่าเรนจ์โรเวอร์คันดังกล่าวเดินทางออกมาจากกัมพูชา มุ่งหน้าสู่ประเทศไทย แต่ “ใช้ถนนส่วนบุคคลของเอกชนบริเวณเกาะกงรีสอร์ท” อันเป็นกาสิโนและโรงแรม ที่ตั้งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทยราว 500 เมตร

“เราตรวจสอบเทปแล้วพบว่ารถของเขา (เลียง พิเสธ) ผ่านออกมาจากกาสิโนแห่งนั้น” ซึ่งเป็น “ถนนเอกชน (ควบคุมโดย) บริษัทนั้นเท่านั้น” ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของด่านแต่อย่างใด

เฟือง บุนเทือน ผู้ช่วยหัวหน้าด่านจามเยียม ยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าวกับพนมเปญโพสต์ เมื่อ 20 มิถุนายน บอกด้วยว่า ทางด่านได้จัดทำรายงานเรื่องรถคันดังกล่าวของ เลียง พิเสธ ขับผ่านเส้นทางเอกชนของกาสิโนไปยังหน่วยเหนือในกรุงพนมเปญแล้ว ผู้ช่วยหัวหน้าด่านจามเยียมบอกด้วยว่า “เกาะกงรีสอร์ท” แห่งนั้น เป็นของ “ไล ยง พัท”

“ทางผ่านที่ว่านั้นอยู่ใกล้ด่านก็จริง แต่จำกัดเฉพาะพนักงานและกิจกรรมธุรกิจของบริษัทเท่านั้น เรา (ด่านจามเยียม) ไม่ได้มีสิทธิใดๆ เหนือจุดดังกล่าว พนักงานของบริษัทเข้า-ออกผ่านทางนั้น” เฟือง บุนเทือน ระบุ

“ไล ยง พัท” คือใคร?

 

ข้อมูลของพนมเปญโพสต์ระบุว่า เขาคือ “วุฒิสมาชิก” ในสังกัดพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของนายกรัฐมนตรี สมเด็จฯ ฮุน เซน มีลูกเขยเป็น ส.ส. สังกัดพรรคเดียวกันชื่อ เส็ง นาค

เป็น เส็ง นาค นี่เองที่บอกกับพนมเปญโพสต์ ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างเรื่องสิทธิเหนือด่านตรวจดังกล่าว โดยระบุว่าถนนของบริษัทกาสิโน เป็นแค่ถนนไปยังด่าน ถนนไปสู่ด่านมีหลายสายได้ แต่จะเข้าจะออกทุกคนต้องผ่านด่านเดียวกันนี้ทั้งหมด

พนมเปญโพสต์อ้างไว้ในรายงานวันที่ 21 มิถุนายน ว่า เลียง พิเสธ ไม่เพียงเป็น “ดอง” กับ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงผ่านการแต่งงานเท่านั้น ยังเป็น “ดอง” กับพลเอก เตีย บัน รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาอีกด้วย แต่ไม่ได้ขยายความในรายละเอียดถึงเรื่องการ “เป็นดอง” กันดังกล่าว

น่าสนใจที่ว่า พลเอกเตีย บัน ก็เป็นคนพื้นเพเกาะกง

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คนที่ “เกี่ยวดอง” กับ เลียง พิเสธ มีเอี่ยวกับเรื่องค้าอาวุธให้กะเหรี่ยงแต่อย่างใดทั้งสิ้น

 

ในรายงานชิ้นล่าสุดเมื่อ 26 มิถุนายน รายงานของพนมเปญโพสต์ยังบอกด้วยว่า พลเอกเตีย บัน ประกาศจะสอบสวนกรณีนี้ แม้จะอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า เป็นพลเอกเตีย บัน ที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าอาวุธที่ถูกจับกุมในไทยไม่ได้มาจากกัมพูชา แถมยังอ้างด้วยว่า พลเอกเตีย บัน เป็นคนบอกว่า เลียง พิเสธ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เถอะ

โจน เกรวัตต์ ผู้เชี่ยวชาญของไอเอชเอส เจนส์ บอกพนมเปญโพสต์ว่าดูเหมือนทางการไทยต้องการที่จะจัดการกับ “พวกนอกแถว” ในกองทัพ ซึ่งหมายถึงว่าต้องการพึ่งพาทางการกัมพูชาเพื่อจัดการกับการ “ไหลออก” ของอาวุธสงคราม เพื่อการนั้น

ในรายงานวันที่ 26 มิถุนายนเช่นกัน คาร์ล เทเยอร์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คงกดดันกัมพูชาให้เปิดเผยเครือข่ายค้าอาวุธสงครามออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพม่า ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของอาวุธเหล่านั้น และไทยที่เป็นเส้นทางผ่าน

แต่เรื่องก็น่าจะ “ยุติลงเงียบๆ” เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเครือข่ายเหล่านี้มี “อภิสิทธิ์คุ้มครอง” อยู่

แต่ผมเชื่อว่า พนมเปญโพสต์คงไม่หยุดเรื่องนี้ง่ายๆ ในรายงานวันที่ 26 มิถุนายน ยังได้ตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์ของ ซา เก็ง รัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา ในงานเลี้ยงต้อนรับผู้ว่าฯ เกาะกงคนใหม่แทนผู้ว่าฯ บุญเลิศ

ซา เก็ง ย้ำว่า อาวุธถูกลำเลียงผ่าน “เส้นทาง” พิเศษที่ไม่ใช่ผ่านด่านจามเยียม

เรื่องนี้จึงยังมีเค้าสนุกให้ติดตามต่อไปได้อีกครับ