ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 มกราคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
ปีพุทธศักราช 2560 เดินทางเข้ามาพร้อมกับโอกาสที่จะประกาศและบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หลังผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม สนช. ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 168 โดยไม่มีการคัดค้าน
ขณะเดียวกัน ภายนอกที่ประชุม สนช. ได้มี “ภาคประชาสังคม” รณรงค์เพื่อคัดค้าน ต่อต้าน พร้อมกับมีรายชื่อผู้สนับสนุนจำนวนมากถึง 360,000 รายชื่อ
จำนวน 360,000 รายชื่อแทบไม่สร้างความหวั่นไหวอะไรเลยในที่ประชุม สนช. เพราะไม่เพียงแต่จะเทคะแนนให้อย่างท่วมท้นเป็นจำนวนมากถึง 168 โดยไม่ปรากฏการคัดค้านแม้แต่เสียงเดียว
จึงนำไปสู่การเปรียบเทียบอย่างสำคัญ
1 แม้จำนวน 168 เสียงจะดำเนินไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเสียงคัดค้าน ต่อต้าน ที่ดังอึงคะนึงจากจำนวน 360,000 รายชื่อก็สร้างผลสะเทือนในทางความคิดอย่างลึกซึ้ง กว้างขวาง
จากนั้นกลุ่ม “พลเมืองต่อต้าน ซิงเกิล เกตเวย์” ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในโลกออนไลน์ก็เพิ่มและพัฒนาปฏิบัติการผ่านกระบวนการ “เด็กปาก้อนหิน : F5” เข้าถล่มเว็บไซต์ของ “หน่วยราชการ”
ประสานกับการเจาะทะลวง “ข้อมูล” โดยกลุ่ม “แฮ็กเกอร์”
ไม่เพียงแต่นำไปสู่การสะท้อนให้เห็นการปะทะระหว่างแนวทางยุค “อะนาล็อก” กับแนวทางยุค “ดิจิตอล” เท่านั้น
หากยังโยงไปยัง “เผด็จการ” กับ “ประชาธิปไตย”
การต่อสู้ ความคิด
2 ยุคแห่งข้อขัดแย้ง
เหมือนกับว่า การต่อสู้ระหว่างยุค “อะนาล็อก” กับยุค “ดิจิตอล” โดยมี “คอมพิวเตอร์” เป็นพื้นที่ในการยึดครองและแย่งชิงจะเป็นเรื่องในทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
แต่ก็สะท้อน 2 แนวทาง 2 ความคิดที่ขัดแย้งกัน
เหมือนกับว่า การต่อสู้ระหว่าง “เผด็จการ” กับ “ประชาธิปไตย” โดยมี “การเลือกตั้ง” เป็นพื้นที่ในการยึดครองและแย่งชิงจะเป็นเรื่องในทางการเมือง เป็นเรื่องในทางสังคม
แต่ก็สะท้อน 2 แนวทาง 2 ความคิดที่ขัดแย้งกัน
แนวทางแห่งยุค “อะนาล็อก” ดำเนินไปในลักษณะเป็นตัวแทนแห่งยุคเก่า ระบอบเก่า ขณะที่แนวทางแห่งยุค “ดิจิตอล” ดำเนินไปในลักษณะเป็นตัวแทนแห่งยุคใหม่ ระบอบใหม่
แท้จริงแล้ว แต่ละแนวทางล้วนดำรงอยู่ภายในสังคมมาอย่างยาวนาน
กล่าวสำหรับเรื่องในทางการเมือง การต่อสู้ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตยปรากฏขึ้นตั้งแต่ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อเดือนมิถุนายน 2475 เป็นต้น
บางครั้งประชาธิปไตยก็ยึดครอง บางครั้งเผด็จการก็ยึดครอง
กล่าวสำหรับเรื่องในทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การต่อสู้ระหว่างอะนาล็อกกับดิจิตอลเริ่มขึ้นเมื่อดิจิตอลปรากฏตัวในเทคโนโลยีแห่งคอมพิวเตอร์
ระดับโลก ดิจิตอลได้ยึดครองไปแล้ว แต่ระดับสังคมไทยยังเป็นยุคแห่งอะนาล็อก
จุดเริ่ม ความเด่นชัด
ในห้วง 1 ทศวรรษ
หากมองจากปรากฏการณ์ทางการเมือง การต่อสู้ 2 แนวทางนี้เริ่มมีความเด่นชัดเป็นอย่างสูงช่วงก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และต่อเนื่องมากระทั่งหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
รูปธรรม 1 แห่งลักษณะครอบงำ คือ รัฐธรรมนูญ
ขณะที่ ทาง 1 รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ได้ขยายความขัดแย้งและเพิ่มโอกาสให้กับการเติบใหญ่ของพรรคการเมืองที่สะท้อนจุดร่วมระหว่างกลุ่มทุนสมัยใหม่กับชนชั้นกลางรุ่นใหม่เป็นอย่างสูง ทาง 1 รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เข้ามาเพื่อตัดวงจรนี้ออกไป
เมื่อไม่สามารถทำให้วงจรนี้ดับสูญอย่างสิ้นเชิงจึงนำไปสู่รัฐประหารอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2557 ภายใต้คำขวัญ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” อันเป็นที่มาแห่งร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติเมื่อเดือนสิงหาคม 2559
แม้ในความเป็นจริงทั้งหมดนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่าง “เผด็จการ” กับ “ประชาธิปไตย”
แต่ก็ไม่มีเผด็จการใดที่จะยอมรับในความเป็นเผด็จการของตน หากแต่จะปรากฏมาในรูปของประชาธิปไตยประชาชน หรือประชาธิปไตยแบบพม่า หรือประชาธิปไตยแบบจีน
กระนั้น กล่าวสำหรับสังคมไทย การปรากฏขึ้นของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้ทำให้ระยะห่างระหว่างเรื่องทางการเมืองกับเรื่องทางเทคโนโลยีได้เข้ามาสัมพันธ์กันอย่างอัตโนมัติ
เมื่อการปะทะระหว่างยุค “อะนาล็อก” กับยุค “ดิจิตอล” กลายเป็นการปะทะระหว่าง “เผด็จการ” กับ “ประชาธิปไตย”
โรดแม็ป ปี 2560
กำหนดวัน ตัดสิน
การย่างเข้าสู่ปี พ.ศ.2560 จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูงสำหรับสังคมการเมืองและเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
เพราะทางเทคโนโลยียืนยันอิทธิพลของ “อะนาล็อก” ยังมีอยู่
เพราะทางการเมืองแม้จะมีความพยายามของ “เผด็จการ” จากกระบวนการรัฐประหารในการสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญ ผ่านการเลือกตั้ง แต่ก็ได้รับการท้าทายจากพลัง “ประชาธิปไตย” อย่างรุนแรง แหลมคมมากเป็นลำดับ
“การเลือกตั้ง” จึงทรงความหมายไม่เพียงแต่ต่อ “ประชาธิปไตย” หากแต่ยังทรงความหมายต่อการขับเคลื่อนของ “ดิจิตอล” ที่จะเข้าไปแทนที่ “อะนาล็อก” อีกด้วย