เผยแพร่ |
---|
“พระเมรุมาศ” คือ “พระเมรุขนาดสูงใหญ่” เป็นอาคารป้องกันแดด ลม ฝน ให้แก่ “พระเมรุทอง” ลักษณะของพระเมรุมาศที่ปรากฏสร้างมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ “พระเมรุมาศทรงปราสาท” และ “พระเมรุมาศทรงบุษบก” โดยพระเมรุมาศทรงปราสาทจะเป็นทรงที่สร้างขึ้นสำหรับพระมหากษัตริย์ที่สืบต้นแบบมา แต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และใช้ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ โดยการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้ายที่จัดสร้างพระเมรุมาศขึ้นตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี
ส่วน “พระเมรุมาศทรงบุษบก” นั้นก็เป็นของพระมหากษัตริย์เช่นกัน เริ่มปรากฏใช้ครั้งแรกในงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงดำริว่าการพระราชพิธีพระบรมศพอย่างโบราณสิ้นเปลืองแรง เปลืองพระราชทรัพย์ และทำความเดือนร้อนให้แก่อาณาประชาราษฎร์เป็นอันมาก ให้ยกเลิกเสียในการพระราชพิธีพระบรมศพของพระองค์ โดยให้จัดการพระเมรุถวายพระเพลิง แต่พอควร
พระเมรุมาศสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีนั้นสร้างด้วยไม้ โครงสร้างภายในเป็นเหล็ก ส่วนประกอบด้านนอกเป็นไม้และไม้อัด ประดับด้วยกระดาษทองย่นทั้งหลัง ทรงปราสาทย่อมุมไม้สิบสองยอดเกี้ยว 3 ชั้น มีจัตุรมุข สูงจากพื้นยอด 30.50 เมตร ไม่รวมสัปตปฎลเศวตฉัตร 7 ชั้นที่ยอด มีโถงกลางตั้งพระจิตกาธาน มุขด้านเหนือและใต้ยาวกว่ามุขด้านตะวันตกและตะวันออก หลังคามุขทั้งสี่ทิศซ้อน 2 ชั้น ฐานพระเมรุมาศจัดทำเป็น 2 ระดับ ชั้นแรกเรียกชานชาลา เป็นฐานปัทม์ย่อเก็จประดับด้วยเทวดาถือบังแทรก 20 องค์
โดยรอบมีบันได 12 แห่ง แห่งละ 9 ขั้น ฐานบนเรียกพลับพลาพระเมรุมาศ เป็นฐานสิงห์ประดับฉัตร 24 องค์ โดยรอบทั้งสี่ทิศ มีบันไดทางขึ้นจากฐานชาลา 14ขั้น องค์พระเมรุมาศมีขนาดกว้าง 26.70 เมตร ยาว 36.30 เมตร ย่อมุมสิบสองหันหน้ามาทางทิศตะวันตก ประดับด้วยจัตุรมุขซ้อน 2 ชั้น ที่หน้าบันทั้งสี่มีพระนามาภิไธยย่อ “ สว ” เพดานภายในมีลายดาว เพดานส่วนยอดเป็นพระเกี้ยว 3 ชั้น มีลักษณะเป็นลายซ้อนไม้ประดับลวดลายต่างๆ
หลังคาเป็นไม้รองด้วยสังกะสี ประดับด้วยใบระกา ยอดเสาเป็นหัวบัว พระเมรุมาศทั้งสี่ด้านเปิดโล่ง มีเครื่องตกแต่ง คือ พระวิสูตรและฉากบังเพลิง
นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างและอาคารส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ด้านทิศตะวันออก สร้างเป็นหอเปลื้องเครื่อง สำหรับไว้พระโกศที่เปลื้องแล้วและสรรพวัสดุเครื่องในการถวายพระเพลิง และสิ่งปลูกสร้างสำหรับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรร สี่มุมพระเมรุมาศ เรียกว่า ช่าง และยังมีพระที่นั่งทรงธรรมสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับทรงธรรมและทรงบำเพ็ญพระราชกุศล มีรั้ววงนอกปริมณฑลยาว 460 เมตร ทำสวนและทางเดิน
ความงดงามของสวนรอบพระเมรุมาศนี้ตกแต่งด้วยดอกไม้ และไม้ประดับซึ่งนำมาจากโครงการดอยตุงทั้งหมด จำนวนทั้งสิ้น 225,530 ต้น เป็นไม้ดอกจำนวน 21 ชนิด ซึ่งเท่ากับวันพระราชสมภพ ประกอบด้วย อัจเจอราตุ้ม, บิโกเนีย, สร้อยไก่, พีทูเนีย, หงอนไก่, ลิ้นมังกร, บานไม่รู้โรย, ดัทชี่ มิลเลอร์, บานชื่น, ดัลเบิร์กเดซี่, ดาวเรือง, เบญจมาศ, เจอราเนียม, แพนซี , พังพวย และว่านสี่ทิศสีแดง นอกจากนี้ยังมีไม้ประดับอื่นๆอีก 9 ชนิด ได้แก่ พุดตาน เบญจมาศ และสน ประมาณ 3,000-4,000 ต้น ซึ่งมีความหมายตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 9
การจัดสวนนี้เป็นการจัดเฉพาะตัวที่ใช้การเลียนแบบธรรมชาติผสมกับการจัดแบบทางการ คือกึ่งธรรมชาติ และกึ่งประดิษฐ์ และการจัดสวนซ้ายขวาไม่เท่ากัน ไม่ได้หมายถึงการจำลองมาจากที่อื่น เป็นการคิดขึ้นใหม่ โดยนำเอาเขามอตะโกดัด ต้นแก้วเจ้าจอม อันเป็นไม้ในวรรณคดีมาร่วมจัดกับสมัยใหม่ ทำให้พระเมรุมาศในครั้งนี้มีความหมายและความงดงามประทับใจในความทรงจำของพสกนิกรไทย ตราบนานแสนนาน