ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ARE YOU THERE GOD? IT’S ME, MARGARET | ‘แตกเนื้อสาว’
หนังเรื่องนี้มีชื่อยาวเหยียดเป็นประโยคต่อเนื่องสองประโยค ทั้งถามหาและแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ โดยเป็นหนังที่สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของจูดี้ บลูม ซึ่งตีพิมพ์วางตลาดเมื่อ ค.ศ.1970
เป็นนิยายสำหรับเด็กหญิงวัยผลิบาน ซึ่งเล่าเรื่องราวของมาร์กาเร็ต ไซมอน ผู้กำลังก้าวข้ามความเป็นเด็กหญิงวัยสิบเอ็ดแก่แดดที่ฮอร์โมนในร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง เข้าสู่วัยสาวน้อยเต็มตัว
แรกเริ่มหนังสือก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้อ่านวัยรุ่นและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ แถมยังได้รับรางวัลหนังสือต่างๆ หลายรางวัล
กระนั้น ในทศวรรษ 1970 หนังสือก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ ขนาดถูกแบนถูกปลดออกจากชั้นหนังสือ และกลายเป็นหนังสือ “ต้องห้าม” ในบางแวดวงที่ “ยึดถือขนบประเพณีอันดีงาม” เหตุเพราะเนื้อหาที่เปิดเผยตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเฉพาะมีประเด็นที่อาจถือเป็นความละเอียดอ่อนของศรัทธาทางศาสนา
กว่าจะนำมาสร้างเป็นหนังเต็มรูปแบบในแนวดราม่า-คอเมดี้ได้ เวลาก็ล่วงไปถึงกว่า 40 ปี คนรุ่นที่หนังสือตั้งใจจะเขียนให้อ่าน (คือเด็กหญิงวัยก่อนแรกรุ่น) ก็โตขึ้นจนเลยวัยสาวสะพรั่ง เข้าวัยกลางคนไปแล้วล่ะ
หนังเลือกนักแสดงบทหลักๆ ได้ลงตัวดี โดยเฉพาะตัวละครหลักสามรุ่น คือ ย่า (แคธี เบตส์) แม่ (เรเชล แม็กอาดัมส์) และตัวมาร์กาเร็ต (แอบบี ไรเดอร์ ฟอร์ตสัน)
ซึ่งทำให้ได้ใจคนดูไปโข แม้ว่าตัวละครอื่นๆ จะมีบทบาทเพียงแค่รายล้อมวิบวับอยู่เหมือนดาวล้อมเดือน ไม่ว่าจะเป็นพ่อ ปู่ย่า เพื่อนฝูง ครู หนุ่มน้อยในดวงใจ หรือนักบวชในศาสนาที่เกี่ยวข้อง
มาร์กาเร็ตในวัยสิบเอ็ด เจอเข้ากับความยุ่งยากครั้งใหญ่ในชีวิตเนื่องจากพ่อแม่กำลังจะย้ายบ้านจากมหานครนิวยอร์ก ไปอยู่ชานเมืองในนิวเจอร์ซีย์
เธอต้องย้ายไปอยู่โรงเรียนใหม่ ไปเรียนหนังสือในชั้นที่เทียบเท่ากับประถม 6 ต้องจากย่าซิลเวียผู้น่ารัก ต้องทิ้งชีวิตที่คุ้นเคยทั้งหมดไปอยู่ในถิ่นใหม่ บ้านใหม่ โรงเรียนใหม่ และหาเพื่อนใหม่
ชีวิตเยาว์วัยของมาร์กาเร็ตกำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่หลวงถึงขั้นต้องหกคะเมนตีลังกาพลิกหน้าเป็นหลัง จะออกหัวออกก้อยยังไงก็ยังมืดมนอนธการ สุดปัญญาที่จะคิดได้
“เพื่อนในจินตนาการ” คนเดียวที่เธอเรียกหาและพูดคุยด้วยในความว่างเปล่าเบื้องบนคือ “พระเจ้า”
“ท่านอยู่ตรงนั้นหรือเปล่าคะพระเจ้า นี่หนูเอง มาร์กาเร็ตนะคะ”
“…เพี้ยง! ขอให้นิวเจอร์ซีย์ไม่เลวร้ายนักเถอะ”
ในวันที่เธอย้ายเข้าบ้านใหม่ แม่กำลังวุ่นจัดบ้านอยู่ ก็มีเพื่อนบ้านวัยเดียวกันมาเคาะประตูเรียกไปเล่นน้ำจากหัวฉีดรดน้ำในสนามหน้าบ้าน
มาร์กาเร็ตต้องสวมชุดว่ายน้ำของเพื่อน และเปรียบเทียบความล่าช้าของการเจริญเติบโตของทรวงอกแบนๆ ของเธอเป็นครั้งแรกกับเพื่อนผู้เริ่มมีร่างกายที่บอกความเป็นสาวแล้ว
นี่คือความวิตกกังวลถึงขั้นกลุ้มใจใหญ่โตในชีวิตของมาร์กาเร็ต
ท้องเรื่องของหนังอยู่ใน ค.ศ.1970 ดังนั้น บรรยากาศจึงเป็นหนังย้อนยุค พร้อมด้วยรายละเอียดต่างๆ ของบ้านช่องอาคารร้านค้า รถยนต์ แฟชั่นเครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน โทรศัพท์ โทรทัศน์ กิจกรรมและการละเล่นในชีวิต…
…ซึ่งเด็กสมัยนี้อาจไม่รู้จักหรือเห็นเป็นของแปลกตาเหมือนหลุดมาจากนอกโลก
นอกจากความกังวลว่าเธอจะมีพัฒนาการช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันแล้ว มาร์กาเร็ตยังรู้สึกถึงภาระหนักหน่วงที่พ่อแม่มอบให้ อย่างที่เด็กอื่นๆ อาจไม่ต้องแบกไว้
ครูประจำชั้นให้การบ้านเป็นการแนะนำตัวของนักเรียนทุกคน โดยให้เขียนสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบให้ครูอ่าน ทำให้มาร์กาเร็ตถูกเรียกตัวไปคุยด้วยเพราะเธอเขียนว่า “ฉันไม่ชอบวันหยุดทางศาสนา”
ครูอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบวันหยุดทางศาสนา และมาร์กาเร็ตตอบว่าเพราะเธอไม่มีอะไรให้ทำในวันหยุดทางศาสนา
เฮิร์บ พ่อเธอ (เบนนี ซาฟดี) เป็นยิว และบาร์บารา แม่เธอ (เรเชล แม็กอาดัมส์) เป็นคริสต์
พ่อแม่ไม่ใช่คนเคร่งศาสนาทั้งคู่ และตัดสินใจร่วมชีวิตกันด้วยความรัก ทั้งๆ ที่พ่อแม่ของตนไม่เห็นด้วย ถึงขั้นตัดพ่อตัดแม่ตัดลูกถ้าลูกยังดึงดันจะแต่งงานกันคนศาสนาอื่น
เฮิร์บกับบาร์บาราจึงตกลงกันว่าจะให้ลูกตัดสินใจเลือกศาสนาเลือกจะไปโบสถ์หรือไปวัดเองเมื่อโตพอจะเลือกได้ และไม่พาลูกไปร่วมกิจกรรมของศาสนาใดเลย
จึงเป็นเหตุผลที่มาร์กาเร็ตบอกว่า ไม่ชอบวันหยุดทางศาสนา
ครูก็เลยแนะนำให้มาร์กาเร็ตทำโครงการชิ้นสุดท้ายในชั้นเรียนในหัวข้อศาสนา
และนั่นคือจุดเริ่มที่มาร์กาเร็ตตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาเพื่อทำงานส่งครู และแถมยังอาจช่วยให้เธอมีความชัดเจนในการตัดสินใจเลือกได้ดีขึ้น
หนังเล่าถึงระยะเวลาเพียงปีเดียวในชีวิตของมาร์กาเร็ตซึ่งเรียนในเกรด 6 และจบลงด้วยเหตุการณ์ที่มาร์กาเร็ตเฝ้ารออยู่ทั้งปี ทั้งในแง่ของความเจริญเติบโตของร่างกาย และประกายแห่งความหวังที่โชนขึ้นในด้านความสัมพันธ์กับหนุ่มน้อยที่เธอสนใจ
เป็นเรื่องราวของการก้าวผ่านวัยที่น่ารัก การค้นพบตัวตนและค่านิยมของตัวเองโดยสลัดแรงกดดันจากคนรอบข้าง
และประเด็นที่แหลมคมเกี่ยวกับศรัทธาที่บดบังตามนุษย์จนทำให้แบ่งแยก “พวกเขา” ออกจาก “พวกเรา”
เป็นหนังที่เรียกรอยยิ้มและชวนอบอุ่นใจมากค่ะ •
ARE YOU THERE GOD? IT’S ME, MARGARET
กำกับการแสดง
Kelly Fremon Craig
แสดงนำ
Abby Ryder Fortson
Rachel McAdams
Kathy Bates
Benny Safdie
ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022