Kobato

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

กลับมาอ่านหนังสือของ CLAMP เมื่ออายุมากกว่าหกสิบปีแล้วให้ความรู้สึกแปลกๆ ดี

อย่างหนึ่งคือกระชุ่มกระชวยขึ้น

อีกอย่างหนึ่งคือเหมือนจะเข้าใจเด็กๆ มากขึ้น พวกเขาคิดกันแบบนี้นี่เอง

โคบาโตะ (Kobato) เป็นผลงานปี 2005 ของแคลมป์ ว่ากันว่าเป็นผลงานที่ผู้คนมองผ่านและหลงลืมเมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องดังๆ เรื่องอื่น

เล่มที่คว้ามาอ่านเป็นลิขสิทธิ์ของบงกช ความยาว 6 เล่มจบ สั้นดี ลายเส้นบางเบาตามสไตล์แคลมป์ ว่ากันว่าสร้างเป็นอะนิเมะสวยสดงดงามมากๆ

หนังสือเล่าเรื่องสาวน้อยโคบาโตะ โคบาโตะมาจากไหนไม่มีใครรู้ในเล่มที่หนึ่ง กว่าจะรู้ก็ถึงเล่มที่หก ข้างตัวโคบาโตะเป็นตุ๊กตาหมาพูดได้ที่โคบาโตะเรียกว่าอิโอเรียวงิ ที่จริงเขาชื่อว่าอิโอโรงิ ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหนเหมือนกันจนถึงกลางๆ เล่ม

อิโอโรงิจะพูดเฉพาะเมื่ออยู่กับโคบาโตะสองต่อสองเท่านั้น

ที่ตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยคือตุ๊กตาหมาตัวนี้ไม่สุภาพกับโคบาโตะเลย เอะอะอะไรก็ “โง่ บ้า เซ่อ” เป็นคำด่าติดปาก

พ่นไฟได้อีกต่างหาก

โคบาโตะอยากไปในที่ที่อยากไป อิโอโรงิว่าจะทำได้เมื่อหาหัวใจที่เจ็บปวดมาเติมเต็มขวด คือโจทย์ตอนแรกๆ ของเนื้อเรื่อง ภารกิจที่ต้องทำจึงเริ่มตั้งแต่หาขวด เสร็จแล้วก็หาคนที่มีความทุกข์มาเยียวยา เยียวยาได้คนหนึ่งได้หัวใจหนึ่งดวง

ลำพังขั้นตอนนี้หมดเล่มหนึ่ง

ก่อนที่อิโอโรงิจะให้เริ่มต้นภารกิจ โคบาโตะต้องมีสามัญสำนึกที่ดีก่อน เธอจึงต้องพิสูจน์สามัญสำนึกอยู่เรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เสนอตัวจะเยียวยาให้ผู้ชายจึงได้ “โง่ บ้า เซ่อ” ไปอีกหนึ่งดอก

จะว่าไปเนื้อเรื่องท่อนนี้ก็ไม่เลว คนเราจะสัมผัสความทุกข์คนอื่นได้ต้องมีเอ็มพาธี (empathy)

เอ็มพาธีเป็นศัพท์สูงที่ใช้ๆ กัน แต่ถ้าจะว่ากันง่ายๆ ก็แค่คนเราควรมีสามัญสำนึก เห็นคนมีทุกข์ก็น่าจะรู้ว่ามีทุกข์เท่านั้นเอง จะใจจืดใจดำอะไรนักหนา แคลมป์น่ารักเสมอก็ตรงนี้

หนังสือเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักเมื่อโคบาโตะเสนอตัวไปช่วยทำงานในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้มีครูซายากะเป็นเจ้าของโรงเรียนและครูผู้สอน มีผู้ช่วยเป็นอาสาสมัครชายชื่อฟุจิโมโตะ

ครูซายากะเป็นคนจิตใจดีรักเด็กๆ และยินดีต้อนรับโคบาโตะผู้ซึ่งไม่ค่อยจะมีความสามารถอะไร

ฟุจิโมโตะกลับเป็นฝ่ายไม่ต้อนรับโคบาโตะและออกอาการอยู่เสมอๆ จนกระทั่งโคบาโตะเข้าใจว่าเขาเกลียดเธอ

จะเห็นว่าเมื่อเกี่ยวกับความรักเมื่อไรสามัญสำนึกก็จะหลบฉากหายไป

โคบาโตะหาที่อยู่ได้เป็นหอพักของชิโตเสะ ชิโตเสะเป็นเพื่อนสมัยเรียนของครูซายากะจึงรู้ประวัติแต่หนหลังของซายากะดี

ชิโตเสะมีลูกสาวฝาแฝดชื่อชิเสะกับชิโฮะ (เหมือนจะจำได้ว่าพวกเขาปรากฏตัวในงานของแคลมป์เล่มอื่นๆ มาก่อนแล้ว) ปรากฏว่าฟุจิโมโตะอาศัยอยู่ที่หอพักนี้ด้วยเช่นกัน เมื่ออ่านถึงตรงนี้เป็นว่าโคบาโตะเหมือนถูกขนาบอยู่สองข้างไม่เว้นแต่ละวัน ข้างหนึ่งหมาปากร้ายอิโอโรงิ อีกข้างหนึ่งหนุ่มหน้าเครียดฟุจิโมโตะ เป็นแบบนี้ดาวในขวดเพิ่มช้ามาก

เดาไม่ได้เลยว่าที่แท้ทั้งหมาทั้งหนุ่มเป็นพระเอกทั้งคู่

อ่านต่อไปจึงพบว่าตุ๊กตาหมามีชีวิตบนโลกมิได้มีตัวเดียว ยังมีตุ๊กตาหมีทำเค้ก นกแก้วเจี๊ยวจ๊าว กับกระต่ายป่าหน้าตึง จับใจความได้ว่าไตรภูมิของการ์ตูนเรื่องนี้ประกอบด้วยโลกของเทพ โลกของคน และโลกต่างมิติ

ตุ๊กตาเหล่านี้มาจากโลกต่างมิติด้วยเหตุผลกลใดไว้ไปเฉลยกันในตอนจบแต่ที่สัมผัสได้ตอนนี้คือโคบาโตะกับอิโอโรงิมีซัมธิงกันมาจากโลกของเทพแน่ๆ พวกเขาน่าจะทำอะไรผิดบนสวรรค์จึงต้องกระเด็นมาอยู่บนโลกมนุษย์วันนี้

นั่นคือที่โคบาโตะพูดว่าเธออยากไปที่ที่อยากไป ส่วนอิโอโรงิก็เต็มใจช่วยให้เธอได้ไป

ยัง ยังไม่หมด พลันปรากฏตัวยากูซ่าหน้ามน โอคิอูระ มาทวงหนี้ครูซายากะ มันผู้นี้มาในรูปแบบนักเลงไร้หัวใจและแสดงตัวเป็นศัตรูกับฟุจิโมโตะโดยเปิดเผย

แต่เนื่องจากโคบาโตะจะเยียวยาทุกคนที่ขวางหน้าเธอจึงไม่กลัวโอคิอูระ

ความเป็นที่เปิดเผยในเวลาต่อมาว่ามันผู้นี้เป็นอดีตสามีของครูซายากะนั่นเอง วันนี้พวกเขาหย่ากันแล้วไม่มีเยื่อใยกันอีก

ข้างฟุจิโมโตะเป็นที่เปิดเผยว่าเขาเคยเป็นเด็กในดูแลของพี่สาวซายากะมาก่อน น้องชายแอบรักพี่สาวมาโดยตลอดจึงเฝ้าดูแลใกล้ชิดถึงวันนี้ ใครเข้าใกล้พี่สาวเป็นได้ออกอาการดังที่เห็น

ก่อนจะไปถึงคำเฉลย มาดูวิธีเล่าเรื่องของแคลมป์ แคลมป์มักใช้ลายเส้นบางเบา อ่อนโยน พลิ้วไหว แล้วสลับกันไปมาระหว่างเส้นแบบโรแมนติกกับลายเส้นแบบเอสดี นั่นทำให้หลายครั้งที่เหตุการณ์ดูจะเริ่มจริงจังหรือตึงเครียดมากเกินก็ผ่อนลงมาเป็นแก๊กตลกสักทีอย่างง่ายๆ ครั้นตัวร้ายกำลังจะร้ายเกินคนก็เผยตัวตนด้านเด็กๆ ออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ เสมือนจะบอกว่าโลกเป็นเช่นนี้เองไม่มีใครที่เลวร้ายที่สุดและโลกยังคงน่าอยู่เสมอ

จากนี้ไปเผยตอนจบแล้วนะครับ

ที่แท้ยากูซ่าโอคิอูระยังคงรักอดีตภรรยาซายากะเสมอ ที่เขาต้องร้ายและหย่าเพื่อป้องกันมิให้พ่อของตัวทำร้ายซายากะ พอซายากะรู้ความจริงข้อนี้ก็ตบหน้าอดีตสามีไปหนึ่งทีซึ่งสมควร เห็นเธอเป็นอะไรไปจึงกันเธอออกจากชีวิตไม่ให้ร่วมทุกข์ร่วมสุขสู้อุปสรรคด้วยกัน

เป็นไปตามที่เพจเลี้ยงลูกหนึ่งเขียนเสมอคู่สมรสควรมาก่อนพ่อแม่ พ่อแม่เราต้องกตัญญูแน่นอนแต่เราเป็นผู้กำหนดวิธีที่เหมาะสม

ที่แท้ฟุจิโมโตะมีใจให้สาวเซ่อซ่าโคบาโตะแต่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่บอกตัวเอง จนกระทั่งนาทีสุดท้ายเมื่อเขาไม่อาจปฏิเสธหัวใจของตนเองได้อีกต่อไปจึงเลือกเผชิญหน้าพี่สาวซายากะในวันหนึ่ง

“เมื่อก่อน” ฟุจิโมโตะพูด “ผมชอบซายากะจังมาตั้งนานแล้ว”

“เมื่อก่อนเหรอ งั้น” ซายากะโอบกอดฟุจิโมโตะแนบชิดครั้งหนึ่ง “ไปบอกเด็กคนนั้นที่เป็นปัจจุบันเถอะ”

สุดยอด แคลมป์ถนัดเรื่องรักหมิ่นเหม่แบบนี้อยู่แล้ว

ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของสวรรค์ ที่แท้โคบาโตะและตุ๊กตาหมาอิโอโรงิเป็นเพียงร่างบนโลกของเทพและเทพธิดาที่รักกันมาก่อน วันนี้พวกเขามีโอกาสได้กลับสวรรค์แล้วเพราะหัวใจที่เจ็บปวดเต็มขวดแล้ว แต่โคบาโตะเปลี่ยนไปแล้ว วันนี้เธอมีฟุจิโมโตะในใจเธอมากกว่า ความยุ่งเหยิงของหัวใจเหล่านี้จะคลี่คลายอย่างไรดีโปรดติดตาม

จะเห็นว่าแม้เนื้อเรื่องจะชุลมุนแต่แคลมป์ขมวดได้ในหกเล่มด้วยบัลลูนคำพูดไม่มาก ส่วนที่ว่างไว้ใช้หัวใจของนักอ่านเติมเอาเอง จึงว่าคนแก่อ่านแล้วก็ระลึกถึงความหลังครั้งรักซับซ้อนได้ง่ายๆ ฮา

รักระหว่างโอคิอูระกับซายากะ รักระหว่างโคบาโตะกับฟุจิโมโตะ และรักระหว่างอิโอเรียวงิกับโคบาโตะ เรื่องยุ่งเพราะหัวใจเรามันยุ่งนั่นเอง •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์