บทสรุป “เจนี่-ชนม์สวัสดิ์” จบลง สงครามและความรัก สัจจะกับความจริง

บทสรุป เบ็ดเสร็จ

เห็นจาก “ใบหย่า”

เป็นอันว่า “การยุทธ์” ของ “เจนี่-ชนม์สวัสดิ์” จบลง พลันที่ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ยืนถือ “ใบหย่า” ให้คนสนิทถ่ายภาพเผยแพร่ต่อสื่อ

รายละเอียดระบุว่า ทุกอย่างเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2557

เป็นความเรียบร้อยในห้วงที่ “คลิป” เริ่มปลิวว่อนผ่าน “โซเชียล มีเดีย” เป็นความเรียบร้อยขณะที่กระแสการ “เม้าธ์” ดังกระหึ่มผ่านสื่อ “ออนไลน์”

ไม่ว่า “เฟซบุ๊ก” ไม่ว่า “ไทม์ ไลน์”

หากมองจากพื้นฐานของการปะทะ ขัดแย้ง กระทั่งกลายเป็นข่าวอื้อฉาว ทั้งสื่อบนดินและใต้ดิน จุดลงเอยคือ “การหย่า” สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการสมประโยชน์ของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เพราะเป็นความสมัครใจของทั้งคู่

ประเด็นอยู่ที่ ฝ่ายหญิงไม่เรียกร้องอะไรเลย ยกเว้นรถปอร์เช่ ซึ่งก็เป็นคันเดิมอันเป็นทรัพย์สินของเธอ

การเลี้ยงดูไม่ต้อง ค่าชดเชยไม่ต้อง

เหมือนกับฝ่ายชาย ไม่ได้สูญเสียอะไรเลย เหมือนกับพันธนาการที่เคยมีได้ขาดสะบั้นลงนับแต่วันที่ 29 กรกฎาคม เป็นต้นไป

ที่เคย “มี” ก็กลับกลายเป็น “ไม่มี”

เรื่องของสงคราม
เรื่องของความรัก

สงคราม กับ ความรัก ได้รับการอุปมาว่ามีความละม้ายคล้ายคลึงกันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเพื่อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเพื่อเลิกร้าง

หากวางแผนไม่ดีก็จะล้มเหลว

ขณะเดียวกัน เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว หากบริหารจัดการ “อารมณ์” และ “ความสัมพันธ์” ไม่ดี

จุดจบก็เห็นได้จากกรณีของ “เจนี่”

ทุกครั้งที่ล้มเหลวในความรัก นิ้วของแต่ละฝ่ายมักชี้เข้าใส่อีกคนหนึ่ง ดำเนินไปในลักษณาการแห่ง

“นรก อยู่ที่ คนอื่น”

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เมื่อความรักในเรื่องของการปฏิสัมพันธ์ เป็นเรื่องของ 2 ฝ่าย ปัญหาจึงดำเนินไปในลักษณะ “ร่วม” มิได้เป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตรงกันข้าม เป็นเรื่องที่จะต้องร่วมกันรับรู้และรับผิดชอบ

บทสรุปของเรื่องนี้ไม่มีใคร “ได้” หากแต่เป็นเรื่องต้อง “เสีย” ทั้ง 2 ฝ่าย

 

ใครเป็นฝ่ายรุก
ใครเป็นฝ่ายรับ

ตลอดเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่เรื่องราวของ “เจนี่-ชนม์สวัสดิ์” ปรากฏขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครม สังคมมีบทสรุปอย่างค่อนข้างแน่นอน

ว่า เจนี่ตกอยู่ในฝ่ายถูก “กระทำ”

เหมือนกับ “ชนม์สวัสดิ์” จะอยู่ในสถานะอันได้เปรียบ เป็นฝ่ายรุก เป็นฝ่ายกระทำ ขณะที่ “เจนี่” อยู่ในสถานะอันเสียเปรียบ เป็นฝ่ายรับ และถูกกระทำตั้งแต่เรื่องทำร้ายร่างกายจนมิอาจกล้ำกลืนฝืนทนก็ต้องร้องขอใบหย่า

ถามว่าข่าวทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร

ไม่น่าเชื่อว่า “คลิป” จะมาจากฝ่าย “ชนม์สวัสดิ์” ขณะเดียวกัน ทนายฝ่ายของ “เจนี่” ปฏิเสธว่าคลิปไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของลูกความตน

ยังเป็นเรื่องลึกลับ

กระนั้น ความลึกลับเหล่านี้ก็เรียกคะแนนสงสารให้กับ “เจนี่” และทำให้คะแนนของ “ชนม์สวัสดิ์” ต้องติดลบไปโดยอัตโนมัติ

เสร็จสิ้น “เจนี่” ก็บินไป “ต่างประเทศ”

พลานุภาพ สายลม
สายน้ำ และเปลวไฟ

ทั้งหมดนี้สะท้อน “การยุทธ์” ระหว่างฝ่ายหนึ่งซึ่งได้รับการประเมินว่าเป็นฝ่ายครองอำนาจ เป็นฝ่ายเข้มแข็ง เป็นฝ่ายกระทำ

กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งตกอยู่ใต้อำนาจ อ่อนแอ และตั้งรับ

สังคมมองและประเมินตั้งแต่ต้นแล้วว่า ฝ่ายที่มีอำนาจมากกว่า ฝ่ายที่เข้มแข็งยิ่งกว่า น่าจะกำชัยชนะอย่างแน่นอน

ยิ่งสังคมไทยเป็นสังคมชายเป็นใหญ่ ยิ่งเด่นชัด

กระนั้น ในความเป็นจริงที่ปรากฏและสะท้อนออกผ่านสื่อกระดาษ สื่อกระจก ทั้งใต้ดินและบนดิน ก็ไม่แน่ว่า ฝ่ายที่เข้มแข็ง ฝ่ายที่ทรงอำนาจจะเป็นฝ่ายกุมชัยได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและเป็นจริง

ความเอนเอียง ความเห็นอกเห็นใจ เทไปข้าง “เจนี่” มากกว่า “ชนม์สวัสดิ์”

ที่ประเมินว่าอ่อนด้อย ที่ประเมินว่าไม่ทรงพลัง กลับกลายเป็นแข็งแกร่ง กลับมากด้วยพลานุภาพ เมื่อผ่านการสัประยุทธ์ นี่คือลักษณะแฝงเร้นของสายน้ำ ของสายลม ของเปลวไฟ

อย่าดูหมิ่น Soft Power เหล่านี้อย่างเด็ดขาด